KTIS ปิดเทรดช่วงเช้าที่ 9.55 บาท ต่ำกว่าราคา IPO 4.50%

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday April 28, 2014 12:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

หุ้น KTIS ปิดเทรดช่วงเช้าที่ 9.55 บาท ลดลง 0.45 บาท(-4.50%)จากราคาขาย IPO ที่ 10.00 บาท/หุ้น มูลค่าซื้อขาย 6,636.33 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 10.00 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 10.10 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 9.40 บาท

บล.ทิสโก้ ระบุในนบทวิเคราะห์ฯมองหุ้น บมจ.เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น(KTIS)มีโอกาสต่ำกว่าจอง เพราะราคา IPO ที่ 10 บาท KTIS จะมี Trailing PER ที่สูงถึง 30.5 เท่า และมี BV (หลังรวมเงิน IPO แล้ว) ประมาณ 4.5 บาท หรือคิดเป็น PBV 2.2 เท่า ในขณะที่ปัจจุบัน KBS และ KSL ซึ่งดำเนินธุรกิจน้ำตาลเหมือนกัน ซื้อขายที่ PER 11.8 เท่า และ 13.8 เท่า และ PBV ที่ 1.7 เท่า และ 1.9 เท่า ตามลำดับ

ประกอบกับหลังการ IPO หุ้น KTIS มีภาระผูกพันในการออกหุ้นตามสัญญาการปรับโครงสร้างหนี้อีกราว 2.08 พันล้านบาท หรือ 208 ล้านหุ้น ซึ่งจะทำให้ EPS ต่อหุ้นลดลงอีกราว 5% ในอนาคต มองมูลค่าเหมาะสม 7.7-8.64 บาท

โครงการในอนาคตของ KTIS 1) โครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลจากชานอ้อย 2 แห่ง เพื่อเพิ่มกำลังการขายไฟของบริษัท โดยจะใช้ชานอ้อยจากโรงงานน้ำตาลเป็นเชื้อเพลิง โดยโรงไฟฟ้าแห่งใหม่จะมีกำลังการผลิตโรงละ 50 เมกะวัตต์ ซึ่งกระแสไฟจะนำไปใช้ในโรงงานและขายให้กับ กฟผ. 2) การสร้างโรงงานปุ๋ยชีวภาพจากกากของโรงงาน โดยคาดว่าเมื่อลงทุนเสร็จจะมีกำลังการผลิต 9 พันตัน/ปี 3) โครงการสร้างโรงงานผลิตน้ำเชื่อม 400 ตัน/วัน โดยจะตั้งติดกับโรงงานเดิม และมีโรงงานผลิตน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์เพื่อใช้ร่วมในกระบวนการผลิตน้ำเชื่อมและขายให้กับประเทศ เช่น ตะวันออกกลาง เกาหลี ญี่ปุ่น

KTIS ประกอบธุรกิจอ้อยและน้ำตาลทราย รวมทั้งอุตสาหกรรมต่อเนื่องครบวงจร โดยมีโรงงานผลิตน้ำตาลทราย 2 แห่ง และโรงงานเช่าอีก 1 แห่ง นอกจากนี้บริษัทยังมีโรงงานผลิตเยื่อกระดาษฟอกขาวจากชานอ้อย โรงงานผลิตเอทานอล โรงไฟฟ้าชีวมวล และโรงงานปุ๋ยอัดเม็ด อิงจากผลการดำเนินงานในปี 2556 KTIS มีรายได้หลักจากการขายน้ำตาลทรายราว 80% ส่วนใหญ่มาจากการส่งออก ซึ่งบริษัทเป็นผู้ส่งออกน้ำตาลไปญี่ปุ่นรายใหญ่ และรายได้จากการขายเอทานอลและกระดาษคิดเป็นรายได้อย่างละ 8%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ