(เพิ่มเติม) GOLD ตั้งเป้าขายสินทรัพย์ non-core ทั้งหมดในปี 57 สร้างเงินสด 2.4 พันลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday April 28, 2014 13:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ (GOLD) เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทได้กำหนดให้เป็นปีแห่งการสร้างคุณค่า โดยการพิจารณาเพื่อการสร้างและเพิ่มมูลค่าของสินทรัพย์ที่มีอยู่ให้เกิดมูลค่าและผลตอบแทนสูงสุด บริษัทได้จัดสรรสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ มูลค่ารวม 2,400 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการขายแล้ว 1,155 ล้านบาท แบ่งเป็นที่ดินรามคำแหง 980 ล้านบาท และที่ดินเชียงรายบางส่วนประมาณ 175 ล้านบาท หรือคิดเป็น 50% ของแผนการขาย ทั้งนี้คาดว่าจะสามารถขายหมดภายในไตรมาส 3-4/57

สำหรับเงินที่ได้จากการขายสินทรัพย์นี้จะนำไปชำระหนี้และลงทุนเพื่อซื้อที่ดินเตรียมพัฒนาโครงการแนวราบปี 58-60 ทั้งยังใช้ลงทุนในโครงการเอฟวายไอ เซ็นเตอร์ บริเวณถ.พระราม 4 มูลค่า 5,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ สินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของบริษัท ประกอบด้วย ที่ดินถ.รามคำแหง ราคาขาย 980 ล้านบาท, ที่ดินพานอรามา กอล์ฟคลับ จ.นครราชสีมา ขนาด 2,100 ไร่ ราคาประมาณ 700 ล้านบาท, ที่ดินชายทะเล อ.เมือง จ.กระบี่ ขนาด 118 ไร่ ราคาประมาณ 250 ล้านบาท, ที่ดินอ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ขนาด 213 ไร่ ราคาประมาณ 130 ล้านบาท, ที่ดินบ้างฉาง จ.ระยอง ขนาด 87 ไร่ ราคาประมาณ 150 ล้านบาท และ ที่ดินอ.เมืองและอ.เชียงของ จ.เชียงราย ขนาด 154 ไร่ ราคาประมาณ 210 ล้านบาท

"บริษัทขายสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ออกไป เพื่อเพื่อซื้อที่ดินเพิ่มเพื่อพัฒนาโครงการแนวราบ และหาเงินเพื่อเปิดโครงการใหม่เพิ่มต่อเนื่อง โดยปีนี้ได้ขายที่ดินได้แล้ว 2 แปลง คือที่รามคำแหง 31 ไร่ และ ที่ จ.เชียงราย ประมาณ 154 ไร่ ราคาเกือบ 200 ล้านบาท รวม 2 แปลง คาดได้เงิน 1.2 พันล้านบาทในปีนี้"นายธนพล ศิริธนชัย ประธานอำนวยการและกรรมการ GOLD กล่าว

GOLD บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมในปีนี้ประมาณ 4.1 พันล้านบาท มาจากรับรู้รายได้จากโครงการบ้าน 1.9 พันล้านบาท รายได้จากธุรกิจออฟฟิศให้เช่า 1 พันล้านบาท รายได้จากการขาย non-core 1.2 พันล้านบาท โดยในอีก 3 ปี (ปี 59) ตั้งเป้ามียอดรับรู้รายได้จากโครงการบ้าน 5 พันล้านบาท

นายธนพล กล่าวว่า ปี 57 มีแผนเปิด 10 โครงการใหม่ รวมมูลค่า 9 พันล้านบาท โดยเปิดไปแล้ว 3 โครงการ เหลืออีก 7 โครงการ แบ่งเป็นทาวน์เฮ้าส์ 60% บ้านเดี่ยว 40% และตั้งงบซื้อที่ดิน 2 พันล้านบาท ที่จะต้องเตรียมตัวเพื่อเปิดโครงการต่อเนื่อง และทำยอดรับรู้ฯให้ถึง 5 พันล้านบาทใน 3 ปีข้างหน้า

ปัจจุบัน บริษัทมี Backlog 700-800 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ปีนี้ทั้งหมด ซึ่งไตรมาส 1/57 คาดยอดรับรู้ฯ 300 ล้านบาท ไตรมาส 3-4/57 จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ส่วนเงินที่ได้จากการขายที่ดิน ไตรมาส 2 จะรับรู้กำไรจากการขายที่ดินรามคำแหง 230 ล้านบาท ส่วนที่จ.เชียงรายจะทยอยรับรู้ในช่วงครึ่งปีแรก 40-50 ล้านบาท

ในส่วนธุรกิจออฟฟิศให้เช่ามีแผนเปิดโครงการเอฟวายไอ เซ็นเตอร์ มูลค่า 5 พันล้านบาท คาดปีนี้ใช้เงิน 1 พันล้านบาทในการเริ่มก่อสร้างฐานราก คาดแล้วเสร็จปี 60

นายธนพล กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทมีขาดทุนสะสม 1.6 พันล้านบาท คาดใช้หมดปี 58 โดยใช้กำไรจากการดำเนินงานมาทยอยล้างขาดทุนสะสม

"ตามแผนคาดว่าจะพลิกเป็นกำไรได้ในปี 58 แต่หากมีการขายสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ที่มีอยู่ทั้งหมด 2.4 พันล้านบาทได้หมดในปีนี้ ปีนี้ก็น่าจะพลิกเป็นกำไรได้" นายธนพล กล่าว

นอกจากนี้จะทำให้ D/E ปรับลดลงมาจากปัจจุบันอยู่ที่ 1.3-1.4 เท่า ถ้าทยอยลดหนี้ได้ D/E ก็จะเหลือต่ำกว่า 1 เท่า

ทั้งนี้ บริษัทยังมีแผนออกกองทรัสต์เพื่อลงทุนในอสังหาริมทรัพย์(REIT) โดยจะนำตึกสาทร สแควร์ขายเข้าเป็นสินทรัพย์ของกองทุน คาดว่าจะสรุปได้ราวปลายปี 57 - ต้นปี 58 ขณะนี้อยู่ระหว่าปงระเมินมูลค่าสินทรัพย์

ส่วนการเมืองไม่มีผลต่อการขายโครงการเพราะ 2-3 โครงการที่เปิดตัวตั้งอยู่นอกพื้นที่ชุมนุม จึงสามารถขายโครงการได้ตามปกติ


แท็ก (GOLD)  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ