สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB145B, LB196A และ LB236A (รุ่นอายุ 0.1 ปี, 5.2 ปี และ 9.2 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 14,044 ล้านบาท หรือคิดเป็น 64% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. หุ้นกู้ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) (TISCO145A) มูลค่า 375.3 ล้านบาท
2. หุ้นกู้บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) (CPF198A) มูลค่า 147.2 ล้านบาท
3. หุ้นกู้ของ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน) (AYCAL14OA) มูลค่า 100.5 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 623.0 ล้านบาท หรือคิดเป็น 74.2% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 4,318 ล้านบาท
2. กลุ่มบริษัทจดทะเบียนในประเทศ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 3,610 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 1,603 ล้านบาท
ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.03% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 3.03% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน
Yield Curve ปรับเพิ่มขึ้นในตราสารระยะยาว รุ่นอายุ 10 ปี ประมาณ 2 bps.ตามทิศทางของ US Treasury ประกอบกับนักลงทุนปรับพอร์ตเพื่อเตรียมประมูล พันธบัตรรัฐบาล รุ่น Benchmark อายุ 15 ปี และ 47 ปี วันพรุ่งนี้ โดยตลาดยังคงจับตาดูผลการประชุม FOMC ของสหรัฐฯ วันพรุ่งนี้ ซึ่งคาดว่ามีความเป็นไปได้ที่ Fed จะตัดสินใจปรับลดขนาด QE ลงอีก 1.0 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน สำหรับนักลงทุนต่างชาติ วันนี้มียอดซื้อสุทธิ (NET BUY) เท่ากับ 1,603 ล้านบาท