ในปีนี้จะเป็นปีแห่งการจัดระเบียบเพื่อคุณภาพของบริษัทโดยพัฒนาธุรกิจใหม่ ในการผลิตทาวน์เฮาส์แบบสองชั้น เพื่อเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ และเหมาะสมกับสภาวะตลาด และนำระบบการผลิตแบบ Pre-Cast มาใช้ในการพัฒนาโครงการ รวมทั้งโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคาหรือโซลาร์รูฟ (Solar Rooftop) เพื่อเพิ่มผลตอบแทนที่เป็นรายได้สม่ำเสมอ
นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับการวางแผนกระจายความเสี่ยงด้วยโมเดลธุรกิจใหม่ โดยในอนาคตจะมีสัดส่วนรายได้จากคอนโดมิเนียม 80% บ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม 10% และธุรกิจเช่า 10% โดยวางเป้าหมายกระจายความเสี่ยงไปสู่ธุรกิจเช่ามากขึ้น และมีแผนเปิดคลับเฮ้าส์ในโครงการสนามกอล์ฟ พัทยา คันทรี่คลับ ในต้นปี 2558
ขณะเดียวกันจะมุ่งเน้นกลยุทธ์ความยืดหยุ่น (Flexibility) เปรียบเสมือน “กางเกงยางยืด" เพื่อสอดรับกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งในด้านเศรษฐกิจและการเมือง โดยปีนี้วางแผนที่จะเปิดตัวใหม่อีก 8 โครงการ แบ่งเป็นแนวราบ 4 โครงการ คอนโดมิเนียม 3 โครงการ ธุรกิจเช่าและบริการสนามกอล์ฟ 1 โครงการ คิดเป็นมูลค่าโครงการรวมประมาณ 5,000 ล้านบาท ส่วนระยะเวลาที่จะเปิดโครงการต้องประเมินสถานการณ์ต่างๆ ให้แน่ชัด โดยเฉพาะปัจจัยด้านการเมือง ซึ่งมีผลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค
ทั้งนี้ บริษัทได้วางเป้าหมายรายได้ในปี 57 อยู่ที่ 2,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% และยอดขาย อยู่ 2,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน