ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ก็เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยตลาดฮ่องกง และตลาดจีนได้อยู่ในแดนลบ ซึ่งคงเป็นผลจากที่คนยังคิดว่าเศรษฐกิจจีนยังชะลอตัวอยู่ และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนก็คงจะไม่ได้เห็นในปีนี้ ดังนั้นเรื่องเศรษฐกิจจีนจึงเป็น Negative ส่งผลให้มีเม็ดเงินบางส่วนจากเอเชียตอนเหนือไหลเข้ามา
อย่างไรก็ดีบางคนก็มองว่าเศรษฐกิจจีนใกล้ถึงจุด bottom แล้ว ดังนั้นจึงทำให้ Flow บางส่วนชะลอเหมือนกัน ยกเว้นจะมีเม็ดเงินจากสหรัฐฯ และยุโรป ไหลเข้าเอเชีย แต่คิดว่าถ้าไหลเข้ามาก็คงจะเป็นช่วงครึ่งปีหลัง(H2/57)มากกว่า
พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,400-1,420 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ควานนี้(29 เม.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดทรงตัวที่ 16,535.37 จุด เพิ่มขึ้น 86.63 จุด(+0.53%), ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1,878.33 จุด เพิ่มขึ้น 8.90 จุด(+0.48%),ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 4,103.54 จุด เพิ่มขึ้น 29.14 จุด(+0.72%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 105.28 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 0.10 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 12.15 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 13.59 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 8.79 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 11.61 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 0.02 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดเมื่อวานนี้(29 เม.ย.)ที่ 1,412.33 จุด เพิ่มขึ้น 1.10 จุด(+0.08%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 275.85 ล้านบาท เมื่อวันที่ 29 เม.ย.57
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(29 เม.ย.)ที่ 101.28 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 44 เซนต์
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(29 เม.ย.)ที่ 6.73 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 32.26/27 คาดแกว่งในกรอบแคบ รอผลประชุม FOMC
- "ประสาร" หวังส่งออกปีนี้พลิกกลับเป็นบวกรับอานิสงส์คู่ค้าเศรษฐกิจฟื้น-ค่าบาทอ่อน แรงหนุนสร้างเสถียรภาพ คาดเห็นสัญญาณการฟื้นตัวไตรมาส 2 ขณะที่สศค. เผยจีดีพีไตรมาสแรกติดลบ 0.2% ผลพวงการเมือง ดัชนีชี้เศรษฐกิจชะลอตัวทุกด้าน กดดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคลดต่ำสุดรอบ 12 ปี ขณะ "ไทยพาณิชย์" หั่นจีดีพีปีนี้เหลือ 1.6% เหตุปัญหาการเมือง การลงทุนและบริโภคทรุดหนัก หวั่นกระทบการแข่งขันระยะยาว
- นายอัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า จากการวิเคราะห์การส่งออกไทยไตรมาส 2 และแนวโน้มทั้งปีพบว่า ผลจากความขัดแย้งทางการเมืองส่งผลให้การส่งออกไม่สดใสเท่าที่ควร โดยหากการเมืองยังยืดเยื้อ ไม่มีรัฐบาลใหม่จนถึงไตรมาส 4 การส่งออกจะขยายตัวเพียง 0.25% ทำให้สูญเสียรายได้จากการส่งออก 5.36 แสนล้านบาท
- "สาลินี วังตาล" ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย เผยภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวในปัจจุบันประกอบกับการไม่มีรัฐบาล ทำให้เริ่มเห็นการชะลอตัวลงของสินเชื่อบางประเภทแล้วโดยสินเชื่อที่หดตัวลงค่อนข้างชัดเจนคือ สินเชื่อประเภทเช่าซื้อรถยนต์ ที่ข้อมูลล่าสุดในสิ้นไตรมาสแรกปีนี้พบว่า การขยายตัวลดลงเหลือ 2.5% จากเดิมที่เคยโตสูงถึง 38% สินเชื่อบ้านโตแค่ 12% ลดลงจากก่อนหน้านี้ และสินเชื่อส่วนบุคคลโตแค่ 7% จากสิ้นปี 2556 เคยโตถึง 20% มีผลให้สินเชื่อโดยรวมของระบบธนาคารพาณิชย์ในไตรมาสแรกปีนี้ ขยายตัว 9.8% ลดลงจาก 11.34% ในไตรมาส 4 ปี 2556
- "สมชาย พูลสวัสดิ์"อธิบดีกรมสรรพสามิตเผยภายหลังผู้ประกอบการรถยนต์เข้าพบเพื่อหารือเกี่ยวกับมาตรการคืนภาษีรถคันแรก ว่าผู้ประกอบการค่ายรถยนต์แจ้งว่า ยังเหลือจำนวนใบจองรถยนต์ที่เข้าสิทธิขอคืนภาษีรถคันแรกอีก 1.1 แสนคัน แยกเป็นส่วนที่เป็นผู้ซื้อรถที่ยังไม่ถึงกำหนดรับรถตามสัญญา และผู้ที่ไม่มารับรถตามครบกำหนดสัญญา เบื้องต้นค่ายรถยนต์ได้แจ้งว่าจะมีผู้จองมายื่นขอรับรถในช่วงสุดท้ายก่อนปิดโครงการอีกประมาณ 10% ของจำนวนใบจองที่เหลือทั้งหมด หรืออีกประมาณไม่เกิน 1 หมื่นคัน
- แบงก์ชาติ การันตี "แบงก์ไทย" ยังแข็งแกร่งโดยคุมคุณภาพหนี้ได้ดี-รับมือได้แม้เศรษฐกิจชะลอตัวนาน 2 ปี พร้อมกันสำรองสูง 157% แต่ยอมรับเอ็นพีแอลปรับเพิ่มขึ้นบ้าง ชี้สินเชื่อรวมยังขยายตัวได้ 9.8% ลดลงตามภาวะเศรษฐกิจ แต่ไม่น่ากังวล
- น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยแนวโน้มเศรษฐกิจไทยไตรมาสแรกของปีนี้ว่า จะติดลบไม่เกิน 0.5% ซึ่งถือว่าเป็นจุดที่ต่ำที่สุดของเศรษฐกิจในปีนี้แล้ว ส่วนไตรมาส 2 คาดว่าจะขยายตัวไม่เกิน 1% ส่งผลให้ครึ่งปีแรกเศรษฐกิจไทยจะไม่ขยายตัว
- ป.ป.ช.มีมติไม่อนุญาตสอบพยานปมจำนำข้าวเพิ่มเติม สั่งสรุปสำนวนทั้งหมดเสนอองค์คณะไต่สวน ลุ้นชี้มูลสัปดาห์หน้า ด้านคดีโยกย้าย "ถวิล เปลี่ยนศรี" เข้าสู่ โค้งสุดท้าย "ยิ่งลักษณ์" ส่งทนายยื่นเอกสารยืนยันถ้อยคำต่อศาล แจงโยกย้ายเลขาธิการ สมช.ด้วยความบริสุทธิ์ใจ ด้านทนายที่รับมอบอำนาจไม่ติดใจเอกสารคำถามของศาลร่อนถึง "วิเชียร" ขณะที่ "ไพบูลย์" มั่นใจนายกฯหลุดเก้าอี้ ครม.พ้นสภาพ
- นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(กปปส.) ประกาศกร้าว 30 เม.ย.เปิดแผนเผด็จศึกรัฐบาลลั่นรบแตกหักครั้งสุดท้าย ปลุกม็อบสู้เพื่อเปลี่ยนแปลงอนาคตชาติ
*หุ้นเด่นวันนี้
- SPALI(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"คาดกำไรปกติ 1Q14 ลดลง 59% Q-Q แต่เพิ่ม 53% Y-Y สอดคล้องกับรายได้โอน และคิดเป็น 18% ของประมาณการทั้งปี แต่แนวโน้มกำไร 2Q14 จะลดลง Q-Q เพราะมีคอนโดโอนน้อยมาก ก่อนจะดีขึ้นอีกครั้งใน 2H14 โดยยังคงเป็น Top pick ในกลุ่มเพราะกำไรปกติในปีนี้ที่คาดจะเติบโตสูงสุดในกลุ่มคือ 35% Y-Y (มีรายได้โอนรองรับแล้ว 103%) พร้อมให้ราคาเป้าหมาย 22 บาท
- TTCL(เคเคเทรด)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 39 บาท จากงานในมือปัจจุบันที่ 2.6 หมื่นล้านบาท และมีงานใหม่ที่อยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญาในปี 2557 อีกราว 3 หมื่นล้านบาท ทำให้เรามองว่าผลการดำเนินงานในปี 2557-2558 ของบริษัทจะเพิ่มขึ้นโดดเด่นที่สุดในกลุ่มฯ โดยที่เราประเมินกำไรสุทธิในปี 2557 และ 2558 เพิ่มขึ้น 42% และ 36% YoY ขณะที่ประเด็นการก่อสร้าง และลงทุนในโรงไฟฟ้าถ่านหินขนาด 1,000 MW ในพม่าที่คาดว่าจะได้ข้อสรุปใน มิ.ย.2557 และการที่ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนงานในต่างประเทศถึง 88% จะช่วยสนับสนุนราคาหุ้นในระยะสั้น
- HEMRAJ(เคเคเทรด)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 3.70 บาท บริษัทยังคงตั้งเป้ายอดขายที่ดินในปี 2557 ไว้ที่ 1.6 พันไร่ โดยที่บริษัทประเมินว่าคณะกรรมการบีโอไอที่จะเริ่มประชุมครั้งแรกในวันที่ 1 พ.ค.2557 จะมีการเร่งพิจารณาคำขอส่งเสริมการลงทุนที่ยังค้างอยู่ราว 400 โครงการมูลค่าราว 6.6 แสนล้านบาท ขณะที่โครงการนิคมฯเหมราชชลบุรี 2 จะเปิดตัวใน 4Q57 ทั้งนี้จุดเด่นของบริษัทอยู่ที่ระดับ Dividend Yield ราว 7% และการกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจ ที่นอกจากธุรกิจขายที่ดินแล้วในปัจจุบันยังมีธุรกิจโรงไฟฟ้า, โกดัง-โรงงานให้เช่า และสาธารณูปโภคด้วย
- BANPU(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 29.50 บาท ระยะสั้นความคาดหวังต่อผลประกอบการ 1Q57 ที่จะฟื้นตัวเด่น(คาดประกาศงบวันที่ 12 พ.ค.) และมุมมองต่อราคาถ่านหินที่มีโอกาสฟื้นตัวจากปัจจุบันที่ต่ำผิดปกติ อาจทำให้หุ้น BANPU ปรับตัวดีกว่าตลาด โดยคาดกำไรสุทธิ 1Q57 ที่ 1,393 ล้านบาท (+50.6% YoY, 116% QoQ) และจะเป็นจุดสูงสุดของปีนี้ ตลาดถ่านหินแม้จะอยู่ในช่วงต่ำสุดแต่การฟื้นตัวอย่างชัดเจนยังต้องใช้เวลาอย่างน้อย 6-12 เดือน