“การลงทุนครั้งนี้มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะเป็นการเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ ทำให้ขนาดธุรกิจของบริษัทมีขนาดใหญ่ขึ้น มีความหลากหลายมากขึ้น สามารถต่อยอดกับธุรกิจหลักของบริษัทที่มีอยู่ ช่วยให้กลุ่มบริษัทมีฐานะการเงินและผลประกอบการดีขึ้น อีกทั้งเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการทำกำไรครอบคลุมทั้งวอลล์สตรีทอิงลิช และเวฟ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ตอบรับกับการพัฒนาธุรกิจโทรทัศน์ที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ในปัจจุบัน และยังเป็นโอกาสครั้งสำคัญที่จะทำให้บริษัทได้ก้าวสู่ความเป็นผู้นำทางด้าน Lifestyle Entertainment อย่างสมบูรณ์แบบภายใน 5 ปี"นายแมททิว กล่าว
วอลล์สตรีทอิงลิช เป็นสถาบันสอนภาษาภายใต้ลิขสิทธิ์ของเพียร์สัน (Pearson) กลุ่มธุรกิจผู้นำด้านการศึกษารายใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ที่ประกอบธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ เช่น Penguin Book, หนังสือพิมพ์ Financial Times และนิตยสาร The Economist ที่มีความแข็งแกร่งและมีคุณภาพเป็นที่ยอมรับในระดับสากล
สถาบันสอนภาษาวอลล์สตรีทอิงลิช ประเทศไทย มีแนวโน้มอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีมาร์เก็ตแชร์ 20-30% ของมูลค่าตลาดรวมสถาบันสอนภาษาอังกฤษในประเทศไทยปี 57 ที่ประมาณ 7,000 ล้านบาท ซึ่งการเข้าซื้อธุรกิจในครั้งนี้มีมูลค่า 800 ล้านบาท คิดเป็น 100% จากผู้ถือหุ้นรายเดิม ได้แก่ กองทุนเนวิส (Navis) และ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.)
ทั้งนี้ เพื่อนำจุดแข็งทางด้านภาษาของ วอลล์สตรีทอิงลิช มาผนวกกับความเชี่ยวชาญของ WAVE ผลิตรายการโทรทัศน์หรือการจัดกิจกรรมพิเศษที่เกี่ยวข้องกับการสอนภาษาอังกฤษ ผ่านรูปแบบรายการละครหรือรายการอื่นๆ ทางโทรทัศน์ของไทยทีวีสีช่อง 3 หรือช่องทีวีดิจิตอล โดยเน้นกลุ่มเป้าหมายตั้งแต่อายุ 16 ปีขึ้นไปที่มีความสนใจและต้องการพัฒนาศักยภาพทางด้านภาษาให้กับตนเอง
ด้าน มร.มาร์ค นุโสม์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สถาบันสอนภาษาอังกฤษวอลล์สตรีทอิงลิช ประเทศไทย บริษัท เอ็ฟฟิเชียนท์ อิงลิช เซอร์วิสเซส จำกัด (อีอีเอส) กล่าวว่า การพัฒนาทักษะในการใช้ภาษาอังกฤษของคนไทยจึงมีความสำคัญมากยิ่งขึ้น เพราะภาษาอังกฤษสามารถเป็นเครื่องมือช่วยเปิดประตูสู่โลกกว้าง เป็นทักษะสำคัญให้คนไทยสามารถเตรียมพร้อมตนเองอย่างมีประสิทธิภาพสู่การแข่งขันและพร้อมกับการเติบโตในอาชีพที่มีการแข่งขันสูงขึ้น ระหว่างประชากร ในการเข้ามาของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ซึ่งการร่วมมือกันของ WAVE และ วอลล์สตรีทอิงลิช ในครั้งนี้จะสามารถขยายช่องทางการสื่อสารและเปิดโอกาสการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของธุรกิจการสอนภาษาได้อย่างกว้างขวางและสร้างสรรค์ได้มากขึ้น