ในขณะเดียวกัน ก็ปรับเปลี่ยนเป้าหมายของ EBITDA margin จากในช่วงร้อยละ 35-36 เพิ่มเป็นในช่วง ร้อยละ 35-37 เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบันและให้ความสาคัญกับอัตราส่วนการทากาไรเพิ่มขึ้น ในส่วนของแผนการลงทุน ดีแทคยังคงประมาณการการลงทุนไม่น้อยกว่า 13,000 ล้านบาทในปี 57
ดีแทคมั่นใจว่าทั้ง 3 เครือข่ายปัจจุบัน ได้แก่ เครือข่าย 2G ที่ยกระดับเสร็จสิ้นแล้ว เครือข่าย 3G บนคลื่นความถี่ 850MHz ที่ครอบคลุมทั่วประเทศ และ เครือข่าย 3G บนคลื่นความถี่ย่าน 2.1GHz สามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่เหนือกว่าให้กับลูกค้าของเรา และดีแทคมีความตั้งใจที่จะพัฒนาคุณภาพและขยายเครือข่ายพื้นที่การให้บริการ 3G บนคลื่นความถี่ย่าน 2.1GHz อย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแผนการลงทุนสำหรับ 3 ปี 56-58 ไว้ที่ 34,000 ล้านบาทเพื่อครอบคลุมจำนวนประชากรให้ได้ร้อยละ 80
ทั้งนี้ ณ สิ้นไตรมาส 1/57 ดีแทคมีผู้ใช้บริการทั้งสิ้น 28.2 ล้านราย ยอดผู้ใช้บริการของดีแทคไตรเน็ตเติบโตอย่างรวดเร็วเป็น 15.9 ล้านราย หรือคิดเป็นร้อยละ 56 ของจำนวนผู้ใช้บริการทั้งหมดของดีแทค การขยายโครงข่าย 3G 2.1GHz เป็นไปตามที่คาดการณ์โดยมีสถานีฐานแล้วกว่า 8,600 แห่ง ใน 77 จังหวัดทั่วประเทศ ครอบคลุมจำนวนประชากรร้อยละ 72
บริษัทฯมีความตั้งใจที่จะเปิดให้บริการสถานีฐาน 3G 2.1GHz ร่วมกับสถานีฐานทั้งหมดที่มีอยู่เดิมให้ได้ภายในกลางปี 57 เพื่อสนับสนุนกลยุทธ์ Internet for All ของบริษัท เพื่อเพิ่มรายได้จาก 3 โครงข่ายอัจฉริยะที่มีจำนวน bandwidth ที่มากที่สุดและเพื่อเพิ่มอัตราส่วนในการทากาไรหลัง จากเปลี่ยนเป็นการให้บริการบนระบบใบอนุญาต นอกจากนี้ เพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการใช้อินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ดีแทคจึงได้ลงทุนสร้างโครงข่าย 4G LTE บนคลื่นความถี่ย่าน 2.1GHz ในเขตกรุงเทพมหานคร และพร้อมสาหรับเปิดให้ทดลองใช้บริการแล้ว
รายได้จากการให้บริการ (ไม่รวม IC) ในไตรมาส 1/57 ทรงตัวท่ามกลางความท้าทายของสถานการณ์ตลาดในปัจจุบัน บริการข้อมูลเติบโตร้อยละ 48.4 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และยังคงเป็นปัจจัยสนับสนุนหลักที่ช่วยให้รายได้จากการให้บริการเติบโต EBITDA เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.4 จากปีก่อน อยู่ที่ 8,256 ล้านบาท
สำหรับ EBITDA margin ปรับตัวสูงขึ้นอย่างแข็งแกร่ง 5.4 จุดจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เป็นร้อยละ 36.6 โดยมีปัจจัยหลักมาจากการปรับตัวลดลงของส่วนแบ่งรายได้และต้นทุนที่ลดลงจากประสิทธิภาพในการดาเนินการ กำไรสุทธิอยู่ที่ 3,304 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งร้อยละ 9.1 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน อันเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของ EBITDA แม้จะมีต้นทุนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายจากการลงทุนในโครงข่าย 3G 2.1GHz ที่สูงขึ้นเช่นกันก็ตาม