สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB176A, LB196A และ LB155A (รุ่นอายุ 3.1 ปี, 5.1 ปี และ 1.0 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 12,864 ล้านบาท หรือคิดเป็น 71% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. หุ้นกู้มีผู้ค้ำประกันของบริษัท ลีสซิ่งไอซีบีซี (ไทย) จำกัด (ICBCTL149A) มูลค่า 227.1 ล้านบาท
2. หุ้นกู้ของบริษัทไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (MINT17DB) มูลค่า 103.4 ล้านบาท
3. หุ้นกู้บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) (SCC17OA) มูลค่า 72.1 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 402.5 ล้านบาท หรือคิดเป็น 54.1% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 17,431 ล้านบาท
2. กลุ่มบริษัทจดทะเบียนในประเทศ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 3,821 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 371 ล้านบาท
ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.03% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 3.08% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน
Yield Curve ค่อนข้างนิ่ง โดยพันธบัตรรุ่นอายุ 3 ปี ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยประมาณ 1 bp. ล่าสุด Fed. มีมติปรับลดขนาด QE ลงอีก 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯต่อเดือน ลงสู่ระดับ 4.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯต่อเดือน ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ด้านนักลงทุนยังคงติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยเฉพาะ Nonfarm payrolls เดือน เม.ย.57 ที่จะประกาศออกมาคืนนี้ สำหรับนักลงทุนต่างชาติ วันนี้มียอดซื้อสุทธิ (NET BUY) เท่ากับ 371 ล้านบาท