สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB21DA, LB196A และ LB236A (รุ่นอายุ 7.6 ปี, 5.1 ปี และ 9.1 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 9,900 ล้านบาท หรือคิดเป็น 64% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. หุ้นกู้มีผู้ค้ำประกันของบริษัท ลีสซิ่งไอซีบีซี (ไทย) จำกัด (ICBCTL149A) มูลค่า 227.1 ล้านบาท
2. หุ้นกู้ของ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน) (AYCAL155A) มูลค่า 184.5 ล้านบาท
3. หุ้นกู้ไม่มีประกันของบริษัท น้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน) (KSL14DA) มูลค่า 143.3 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 554.8 ล้านบาท หรือคิดเป็น 49.6% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 8,114 ล้านบาท
2. กลุ่มบริษัทจดทะเบียนในประเทศ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 12,972 ล้านบาท ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดขายสุทธิ เท่ากับ -1,494 ล้านบาท
ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.03% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 3.08% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน
Yield Curve ปรับลดลงเล็กน้อย ในพันธบัตรรุ่นอายุ 5-10 ปี ประมาณ 1 bp. ในขณะที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ปรับลด 17.47 จุด เนื่องจากเหตุระเบิดที่หาดใหญ่ในวันนี้ ด้านตลาดตราสารหนี้นักลงทุนยังคงกังวลกับภาวะเศรษฐกิจไทยจากปัญหาการเมืองที่ยังคงยืดเยื้อ ประกอบกับล่าสุด ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยเฉพาะ Nonfarm payrolls เดือน เม.ย.57 ที่เพิ่มขึ้น ทำให้อัตราการว่างงานต่ำสุดในรอบ 5 ปีครึ่ง อยู่ที่ระดับ 6.3% ส่งผลให้ตลาดกลับมากังวลว่า Fed อาจพิจารณาปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเร็วกว่าที่คาดไว้ สำหรับนักลงทุนต่างชาติ วันนี้มียอดขายสุทธิ (NET SELL) เท่ากับ 1,494 ล้านบาท