สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB196A, LB236A และ LB176A (รุ่นอายุ 5.1 ปี, 9.1 ปี และ 3.1 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 15,097 ล้านบาท หรือคิดเป็น 70% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. หุ้นกู้ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) (THAI165A) มูลค่า 272.8 ล้านบาท
2. หุ้นกู้ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) (BAY164A) มูลค่า 194.6 ล้านบาท
3. หุ้นกู้บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) (DTAC167A) มูลค่า 164.0 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 631.4 ล้านบาท หรือคิดเป็น 46.9% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 12,579 ล้านบาท
2. กลุ่มสถาบันการเงินที่ไม่มีใบอนุญาตเพื่อค้าตราสารหนี้ มียอดขายสุทธิ เท่ากับ -43 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดขายสุทธิ เท่ากับ -7,588 ล้านบาท
ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.03% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 3.04% ปรับตัวลดลงจากเมื่อวาน -0.04%
Yield Curve ปรับลดลง ในพันธบัตรรุ่นอายุ 3 ปีขึ้นไป ประมาณ 1-5 bps. นักลงทุนยังคงกังวลกับปัญหาการเมืองที่ยังคงยืดเยื้อ ซึ่งล่าสุดศาลรัฐธรรมนูญ ได้ตัดสินคดีโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี ว่าขัดรัฐธรรมนูญ โดยตัดสินให้นายกฯ และ รัฐมนตรีผู้ร่วมลงนาม รวม 9 ท่าน พ้นจากตำแหน่ง สำหรับนักลงทุนต่างชาติ วันนี้มียอดขายสุทธิ (NET SELL) เท่ากับ 7,588 ล้านบาท