สำหรับปัญหาการเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้ส่งผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจ สะท้อนได้จากการใช้จ่ายที่ลดลง แต่เศรษฐกิจไทยยังได้รับผลดีอยู่บ้างจากการฟื้นตัวเศรษฐกิจของสหรัฐและญี่ปุ่นที่ทำให้การส่งออกขยายตัวได้ดีขึ้น แต่ไม่ใช่ทุกภาคการส่งออก โดยภาคเกษตรยังมีการชะลอตัวตามราคาสินค้าเกษตรในตลาดโลกที่ตกต่ำ ซึ่งหากการเมืองยังยืดเยื้อออกไปอีกก็อาจจะกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจได้
อย่างไรก็ตาม ภาคเอกชนและสถาบันการเงินอาจจะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องจากภาคเอกชนสามารถปรับตัวจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และสถาบันการเงินมีความแข็งแกร่ง โดยมีเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงในระดับสูงถึง 160% นอกจากนี้สถาบันจัดอันดับเครดิตเรตติ้งยังคงจัดให้สถาบันการเงินของไทยมีความมั่นคงและมีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL)ต่ำ