บริษัทได้นำช่อง 8 ซึ่งประสบความสำเร็จจากการครองเรตติ้งอันดับ 1 ทางทีวีดาวเทียม มาออกอากาศเป็นทีวีดิจิตอลทางหมายเลข 27 ของกล่องทีวีดิจิตอล และทางหมายเลข 8 กับ 37 ทางกล่องทีวีดาวเทียม ตั้งแต่วันที่ 25 เม.ย.57 ที่ผ่านมา ทำให้บริษัทมีแต้มต่อในธุรกิจทีวีดิจิตอลอย่างชัดเจน และล่าสุดปรับสโลแกนใหม่เป็น “เพื่อนคุณทุกที่ ทีวีของทุกคน" สอดรับกับการวางโพซิชั่นนิ่งให้ช่อง 8 เป็นเพื่อนข้างกายของผู้ชมทุกเพศทุกวัยที่สามารถเข้าถึง และมีส่วนร่วมในการเป็นส่วนหนึ่งของช่องซึ่งรับชมได้ทุกที่ ตอกย้ำเป็นช่องทีวีดิจิตอลที่สมบูรณ์แบบสุดในเมืองไทย
นางพรพรรณ กล่าวว่า ปัจจัยที่ผลักดันให้ช่อง 8 ประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้นมาจากการที่ 3 ปีที่แล้วกล้าลงทุนก่อนคนอื่นในการสร้างคอนเทนต์ที่ดีและสามารถเข้าถึงง่าย ทำให้สามารถครอบครองมาร์เก็ตแชร์เป็นอันดับหนึ่งในกลุ่มทีวีดาวเทียม ดังนั้น เมื่อก้าวขึ้นมาเป็นดิจิตอลทีวีก็ยิ่งเพิ่มศักยภาพในการเข้าถึงได้เพิ่มขึ้นอีก โดยในช่วงเดือน เม.ย.ที่ผ่านมามียอดคนดูเฉลี่ยสูงขึ้นถึง 30% หลังจากปรับรูปแบบรายการรอบแรกตั้งแต่เดือน มี.ค.ที่ผ่านมา
สำหรับจุดแข็งสำคัญของบริษัท คือ สามารถผลิตรายการได้เองสูงถึง 95% ถือเป็นการช่วยควบคุมต้นทุนทางด้านการผลิตที่ดี ไม่ว่าจะเป็นทีมงานเบื้องหน้าเบื้องหลังระดับมืออาชีพ และคอนเทนต์ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการแข่งขันในธุรกิจนี้ ซึ่งอาร์เอสที่มีความหลากหลายสามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ครอบคลุมทุกกลุ่มผู้ชม ได้แก่ ละคร วาไรตี้ รายการข่าว รายการกีฬา และมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง
“แม้ขณะนี้ทุกช่องจะเปิดผังรายการจริงระยะที่หนึ่งแล้ว แต่อย่างที่เคยบอกว่าสมรภูมิการแข่งขันนี้เป็นการแข่งขันในระยะยาว ดังนั้น การวางแผนในการลงทุนผลิตคอนเทนต์ให้สอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของเรตติ้งและเม็ดเงินโฆษณาจึงเป็นเรื่องสำคัญ หลังจากนี้เราจะได้เห็นสินค้าที่ไม่เคยโฆษณาบนทีวีอีกมาก และการเข้ามาของผู้ซื้อรายใหม่เหล่านี้จะทำให้ตลาดโฆษณาโตได้มากกว่าการโตตามจีดีพี"นางพรพรรณ กล่าว
ทั้งนี้ เท่าที่ดูจากแนวทางการสร้างคอนเทนต์ของผู้ประกอบการรายใหม่ มีความหลากหลายของคอนเทนต์มากขึ้นส่วนใหญ่จับกลุ่มลูกค้าในเมืองซึ่งเป็นกลุ่มที่แข่งกันดุเดือด มีทางเลือกในการรับชมคอนเทนต์ค่อนข้างมาก ใครตั้งเป้าในการเจาะลูกค้ากลุ่มนี้ก็จะเหนื่อยหน่อย แต่การสร้างการจดจำในช่วงต้นของการทำสถานีถือเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งแต่ละรายคงต้องใช้เงินทุนในการสร้างการรับรู้ตรงนี้ค่อนข้างมาก ช่อง 8 อาจจะได้เปรียบที่ทำไปก่อนหน้านี้แล้ว มาวันนี้ก็เน้นเรื่องการสร้างคอนเทนต์ที่ถูกใจคนดูและสร้างเรตติ้งได้อย่างเต็มที่
ด้านนายองอาจ สิงห์ลำพอง กรรมการผู้อำนวยการสายงานโทรทัศน์ RS กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 25 เม.ย.57 ทางช่อง 8 ปรับผังรายการใหม่ ประกอบไปด้วยวาไรตี้ 50% ละครและข่าวอย่างละ 25% รวมถึงมีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้น เพื่อรองรับการแข่งขันในธุรกิจทีวีดิจิตอลที่เชื่อว่าจะรุนแรง ซึ่งปัจจุบันมีการเพิ่มสัดส่วนรายการผลิตใหม่ 18 ชั่วโมงต่อวัน และรายการรีรัน 6 ชั่วโมงต่อวัน จากเดิมรายการผลิตใหม่และรายการรีรันอย่างละ 12 ชั่วโมงต่อวัน
นอกจากนี้ ยังได้ปรับเพิ่มสัดส่วนละครเป็น 4 ชั่วโมงต่อวัน จากเดิม 3 ชั่วโมงต่อวัน อีกทั้งนับจากนี้เตรียมเปิดกล่องละครใหม่ทั้งหมด 5 เรื่อง ได้แก่ ดงดอกงิ้ว ผัวชั่วคราว ชิงรักหักสวาท เมียเถื่อน แม้เลือกเกิดได้ ขณะเดียวกันยังได้ปรับเพิ่มสัดส่วนรายการข่าวเป็น 6 ชั่วโมงต่อวัน จากเดิม 4 ชั่วโมงต่อวัน ภายใต้คอนเซ็ปต์การเล่าข่าวให้ผู้ชมเข้าใจง่าย นำโดยทีมการผลิตข่าวมืออาชีพกว่า 100 ชีวิต ประกอบด้วย ช่วงเช้าชื่อรายการ “คุยข่าวช่อง 8" ช่วงเที่ยงชื่อรายการ “ข่าวเที่ยงช่อง 8" ช่วงเย็นชื่อรายการ “ข่าวเย็นช่อง 8" ช่วงดึกชื่อรายการ “ห้องข่าวช่อง 8" และช่วงใกล้เที่ยงคืนชื่อรายการ “ครบข่าวช่อง 8"
ขณะเดียวกันยังได้ผลิตรายการวาไรตี้ประเภทเด็กและวัยรุ่น รวมถึงรายการกีฬาเพิ่มขึ้น เพื่อขยายฐานผู้ชมไปยังกลุ่มเด็กและผู้ชาย จากปัจจุบันมีฐานผู้ชมแข็งแกร่งในกลุ่มผู้หญิง โดยไฮไลต์ของกลุ่มรายการใหม่ที่น่าสนใจ ได้แก่ “รายการอึ่ง ทึ่ง เสียว" ที่จะออกอากาศประมาณต้นเดือนมิถุนายนนี้ “รายการเช็คอินบอลโลก" ที่เพิ่งออกอากาศไปเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีเช่นเดียวกับรายการอื่นๆ ของช่อง ไม่ว่าจะเป็น “รายการปากโป้ง" ออกอากาศทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ เวลา 10.30-11.30 น. “รายการข่าวบันเทิง 108" ออกอากาศทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ เวลา 09.00-10.30 น. “รายการเสียงสวรรค์พิชิตฝัน" ออกอากาศทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ เวลา 12.30-13.30 น. “รายการดารามาแล้ว" ออกอากาศทุกวันจันทร์ เวลา 15.50-16.50 น.