"ในปีนี้จะเห็นการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ เนื่องจากเป็นช่วงที่รอการสร้างสตูดิโอและเมืองถ่ายหนังครบวงจร(New Home) มูลค่าโครงการ 700 ล้านบาทที่จะสร้างเสร็จในช่วงกลางปี 59 แต่ระหว่างที่ยังดำเนินการก่อสร้างบริษัทจึงต้องมีธุรกิจอื่นๆเข้ามาเสริม อย่างไรก็ตาม เมื่อสตูดิโอสร้างเสร็จจะสามารถรองรับการถ่ายทำแบบกลางแจ้ง ถ่ายในร่ม และการถ่ายใต้น้ำ พร้อมทั้งมีอุปกรณ์การถ่ายทำที่ทันสมัยและครบวงจร ได้มาตรฐานอยู่ในระดับชั้นนำของอาเซียน มีการจำลองสถานที่ต่างๆ เป็นฉากถ่ายทำ เช่น ทางด่วน และสถานีรถไฟฟ้า เป็นต้น"นายภูมิชาย กล่าว
ในส่วนของธุรกิจให้เช่าอุปกรณ์ถ่ายทำภาพยนตร์บริษัทยังมีแผนขยายไปยังต่างประเทศ โดยคาดว่าจะเปิดให้บริการในพม่าเป็นประเทศแรก และยังมองที่จะขยายไปยังอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นการรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 58 โดยการลงทุนในพม่าจะเป็นความร่วมมือกับผู้ประกอบการท้องถิ่นเพื่อทำธุรกิจให้เช่าอุปกรณ์ ซึ่งขณะนี้เจรจาคืบหน้าไปมากพอสมควร เบื้องต้นคาดว่าจะใช้เงินลงทุนราว 20 ล้านบาท
สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 1/57 มีรายได้รวม 178.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.83 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นคิดเป็น 2.78% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้มีผลกำไรสุทธิอยู่ที่ 21.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.99 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 10.25% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยสาเหตุหลักมาจากรายได้ให้เช่าอุปกรณ์การถ่ายทำภาพยนตร์ที่เติบโตสูงขึ้นถึง 40.23% ซึ่งเป็นไปตามอุตสาหกรรมด้านสื่อสารมวลชนที่กำลังได้รับความสนใจ เพราะมีการปรับเปลี่ยนไปสู่การเป็นดิจิตอล
"แม้ไตรมาสแรกของปีนี้เป็นช่วงที่กำลังซื้อซบเซาไปตามภาวะเศรษฐกิจ แต่ผลการดำเนินงานของบริษัทยังเป็นที่น่าพอใจ อย่างไรก็ตาม มองว่าในช่วงครึ่งปีหลังกำลังซื้อจะกลับมา และจะส่งผลให้มีแรงกระตุ้นด้านเม็ดเงินโฆษณาเข้ามามากขึ้น รวมถึงการมีทีวีดิจิตอลจะช่วยให้เม็ดเงินโฆษณาเพิ่มสูงขึ้น เพราะการที่มีทีวีหลายช่องจะทำให้เกิดการแข่งขัน และมีราคาถูกลง ส่งผลให้อุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อมสามารถเข้าถึงการซื้อเวลาโฆษณาทางทีวีได้"นายภูมิชาย กล่าว