GLOW เผย Q1/57 เก็คโค่-วันดันผลงานแกร่ง,มาตรฐานบัญชีใหม่ไม่กระทบกระแสเงินสด

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday May 12, 2014 10:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเอซ่า เฮสคาเน่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทโกลว์ พลังงาน(GLOW) กล่าวว่า กลุ่มบริษัทโกลว์แจ้งผลประกอบการที่สำคัญสำหรับไตรมาส 1/57 มีรายได้รวม 18,197 ล้านบาท EBITDA จำนวน 4,734 ล้านบาท กำไรสุทธิ จำนวน 1,582 ล้านบาท และ Normalized Net Profit (NNP) ซึ่งไม่รวมรายการปรับปรุงบัญชีให้เป็นไปตามมาตรฐานบัญชีใหม่เกี่ยวกับสัญญาเช่าการเงิน จำนวน 2,076 ล้านบาท

ทั้งนี้ EBITDA และ NNP สำหรับไตรมาส 1/57 เพิ่มขึ้นร้อยละ 6 และ 3 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา

ผลการดำเนินการที่แข็งแกร่งในไตรมาส 1/57 เนื่องจากโรงไฟฟ้าเก็คโค่-วัน ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าไอพีพีถ่านหินขนาด 660 เมกกะวัตต์ที่บริษัทถือหุ้นร้อยละ 65 มีผลการดำเนินการที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยหากไม่รวมการหยุดซ่อมบำรุงตามแผนงานจำนวน 2 อาทิตย์ในช่วงเดือนมกราคมแล้ว ถือว่าโรงไฟฟ้าเก็คโค่-วัน ดำเนินการได้เป็นอย่างดีตลอดทั้งไตรมาสนี้ ด้านโรงไฟฟ้าห้วยเหาะ ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังน้ำขนาด 152 เมกกะวัตต์ที่บริษัทถือหุ้นร้อยละ 67.25 ภายหลังจากที่การซ่อมแซมสายส่งที่เสียหายมาตั้งแต่เดือน ก.ย.56 แล้วเสร็จก็ได้กลับมาเริ่มส่งไฟฟ้าให้ กฟผ. ตั้งแต่เดือน ก.พ.ที่ผ่านมา

ยอดขายไฟฟ้าช่วงเดือน ก.พ.และ มี.ค.ปีนี้รวมกันสูงกว่ายอดขายตลอดไตรมาส 1/56 กว่าร้อยละ 20 ส่วนในด้านธุรกิจโคเจนเนอเรชั่น ยอดขายและอัตรากำไรยังคงมีเสถียรภาพต่อเนื่อง แม้ว่าบริษัทจะมีการหยุดซ่อมบำรุงตามแผนของโรงไฟฟ้า CFB1 และ CFB2 ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าโคเจนเนอเรชั่นถ่านหินขนาด 150 เมกกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าระยะที่ 5 ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าโคเจนเนอเรชั่นก๊าซธรรมชาติขนาด 382 เมกกะวัตต์ในไตรมาสนี้ก็ตาม

นอกจากนี้ โกลว์ไอพีพีเริ่มใช้มาตรฐานบัญชีใหม่เรื่องสัญญาเช่าการเงิน โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปี 57 เป็นต้นไป มาตรฐานบัญชีไทยได้นำมาตรฐานเกี่ยวกับสัญญาเช่าการเงิน (Financial Lease) ของ International Financial Reporting Standard (IFRS) มาใช้ ซึ่งสินทรัพย์เดียวของกลุ่มบริษัทโกลว์ที่เข้าข่ายนำมาตรฐานดังกล่าวมาใช้คือ โกลว์ไอพีพี (โรงไฟฟ้าไอพีพีก๊าซธรรมชาติขนาด 713 เมกกะวัตต์ ซึ่งโกลว์ถือหุ้นร้อยละ 95) การเปลี่ยนแปลงการบันทึกบัญชีที่สำคัญคือการบันทึกอาคาร ที่ดิน และอุปกรณ์ (ตลอดจนการบันทึกค่าเสื่อมราคาของสินทรัพย์ดังกล่าว) และการรับรู้รายได้ค่าความพร้อมจ่าย (ซึ่งปรับมาเป็นการรับรู้ในรูปรายได้จากสัญญาเช่าการเงินแทน)

นายสุทธิวงศ์ คงสิริ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายการเงิน GLOW กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงมาตรฐานบัญชีดังกล่าวจะมีผลกระทบต่อวิธีการลงบัญชีเท่านั้น มิได้มีผลต่อกระแสเงินสดและความสามารถในการจ่ายเงินปันผลของโกลว์ไอพีพีแต่อย่างใด ดังนั้นเราจึงยังคงวิเคราะห์ผลการดำเนินงานตามมาตรฐานบัญชีเดิม และยังคงนโยบายจ่ายเงินปันผลขั้นต่ำไว้เท่ากับร้อยละ 50 ของ NNP ซึ่งไม่รวมรายการปรับปรุงต่างๆ เกี่ยวกับสัญญาเช่าการเงิน ทั้งนี้เนื่องจากแม้การรับรู้รายได้ทางบัญชีจะเปลี่ยนไปแต่กระแสเงินสดจากการดำเนินการของโกลว์ไอพีพีมิได้เปลี่ยนแปลง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ