โดยปัจจุบัน บริษัทมีออเดอร์ในมือในส่วนของการรับงานโปรเจ็คให้กับค่ายรถยนต์ (OEM) ประมาณ 300-400 ล้านบาทซึ่งถือว่าเป็นการรับงานที่สูงสุดของบริษัท และส่วนการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ อะไหล่ทดแทน (REM) มีประมาณ 150 ล้านบาท/เดือน โดยในปีนี้บริษัทสามารถเพิ่มลูกค้าใหม่ได้อีก 3 ประเทศ รวมทั้งสิ้น 121 ประเทศ
นายสมพล กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาแผนร่วมลงทุนกับพันธมิตรในประเทศเอกวาดอร์ เพื่อผลิตอะไหล่ทดแทนโดยจะมีฐานการผลิตอยู่ที่ประเทศเอกวาดอร์ คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 9 เดือน เพื่อขยายฐานลูกค้าในประเทศเปรู โคลัมเบีย โบลิเวีย ชิลี และเอกวาดอร์ ซึ่งถือเป็นการกระจายความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ
นอกจากนี้ ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา บริษัทได้เดินทางไปยังดูงานบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ผู้วิจัยและพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าของจีนเพื่อศึกษาความได้ในการร่วมลงทุนผลิตรถไฟฟ้าป้อนให้กับรัฐบาลจีน ซึ่งขณะนี้มีการส่งเสริมใช้รถไฟฟ้า เพื่อลดปัญหามลภาวะ โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 6 เดือนหลังจากนี้ และเริ่มลงมือผลิตในช่วงต้นปี 2558 ซึ่งจะช่วยผลักดันรายได้ ซึ่งจะทำให้บริษัทกลายเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอย่างครบวงจร
"แผนการดำเนินงานในปี 2557 บริษัทยังคงมุ่งเน้นขยายตลาดต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะที่สหรัฐอเมริกา เนื่องจากเป็นตลาดที่มีศักยภาพและกำไรขั้นต้นสูง ซึ่งจะช่วยเพิ่มผลกำไรบริษัทมากขึ้น โดยขณะนี้เริ่มมีออเดอร์เข้ามาบ้างแล้วจากบรรดาบริษัทชั้นนำ"
ในช่วงก่อนหน้านี้ FPI ได้ลงทุนแม่พิมพ์ชิ้นส่วนรถยนต์จากค่ายญี่ปุ่น และเกาหลี ซึ่งเป็นฐานลูกค้าหลัก ทั้งนี้ หากมีออเดอร์ใหม่เข้ามาจากสหรัฐอเมริกา จะต้องมีการลงทุนเพิ่มในส่วนของแม่พิมพ์ โดยใช้เงินส่วนหนึ่งจากการออกหุ้นกู้แปลงสภาพจำนวน 250 ล้านบาท ซึ่งในช่วงแรกจะดำเนินการในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากเป็นตลาดใหม่ที่ต้องใช้เงินลงทุนสูง
นอกจากนี้ บริษัทยังได้วางแผนขยายตลาดสู่กลุ่มประเทศอาเซียน เพื่อรองรับการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) หลังจากก่อนหน้านี้ได้ลงทุนในส่วนของสำนักงานใหม่ เพื่อรองรับบุคลากรในการขยายตลาด รวมทั้งจะมุ่งเน้นทำธุรกิจซื้อมาขายไป (Trading) อื่นๆ เช่น ชิ้นส่วนเครื่องยนต์ (Engine Part) โดยจะมีการหาพันธมิตรใหม่ๆ ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เพื่อเพิ่มยอดขาย ซึ่งจะทำให้รายได้และกำไรของบริษัทขยายตัวต่อไปในอนาคต ขณะเดียวกันในปีนี้ หาก warehouse แล้วเสร็จตามกำหนดในไตรมาส 3 จะตามแผนจะช่วยให้เดินเครื่องจักรได้อย่างเต็มที่โดยคาดว่าอัตรากำลังการผลิตจะเพิ่มขึ้นเป็น 90%
ส่วนผลการดำเนินงานในไตรมาส 1 ของปี 2557 บริษัทมีรายได้รวม 366.32 ล้านบาท กำไรสุทธิ 36.70 ล้านบาท กำไร 0.12 บาท/หุ้น แม้ภาพรวมเศรษฐกิจจะชะลอตัว จากปัญหาการเมืองที่ยืดเยื้อมาตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา และหมดแรงส่งจากโครงการรถยนต์คันแรก