และบริษัทยังเชื่อว่าจะเติบโตต่อไปในปี 58 โดยตั้งเป้ารายได้เพิ่มขึ้นเป็น 1,200 ล้านบาท จากปีนี้ที่คาดว่าจะทำได้ราว 1,000 ล้านบาท ซึ่งงานหลักยังมาจากธุรกิจก่อสร้างที่เป็นลูกค้าหลักในกลุ่มระบบท่ออาคาร โดยเฉพาะท่อร้อยสายไฟ ที่ยังไม่เห็นแนวโน้มว่าจะชะลอลงไป นอกจากนี้ยังมีธุรกิจรับเหมาระบบปรับอากาศที่บริษัทได้งานรับเหมาระบบปรับอากาศที่สนามบินลำปางมาแล้วเริ่มต้นงานในปีหน้า ซึ่งจะทำให้สัดส่วนรายได้จากงานบริการเพิ่มขึ้นด้วย
"คาดรายได้ปี 57 จะโต 13-15% ยังมองภาวะอุตสาหกรรมก่อสร้างมีแนวโน้มไปได้ เพราะเมื่อโครงการขึ้นแล้วยังไงก็ต้องใช้งานระบบ เมื่อก่อสร้างแล้วงานระบบก็ต้องตามมา ปี 57 ไม่กระทบมากนักกับ ARROW แม้มีวิกฤตการเมืองแต่จะไปให้ถึงเป้าหมายได้"นายธานินทร์ กล่าว
ทั้งนี้ ผลประกอบการไตรมาส 1/57 บริษัทมีรายได้ 247 ล้านบาท เติบโต 15% จากงวดเดียวกันของปีก่อน กำไรสุทธิที่ 35.86 ล้านบาท เติบโต 11.26% เนื่องจากบริษัทได้ปรับนโยบายการขายโดยหันมาแข่งขันด้านราคามากขึ้น อีกทั้งได้เปรียบในด้านปริมาณการผลิตและยังมีการผลิตเหลืออยู่ ทำให้สามารถปรับลดราคาขายสินค้าเพื่อเพิ่มยอดรายได้ให้เพิ่มขึ้น
และเพื่อรักษาอัตรากำไรทำกกำไรรวมถึงผลักดันยอดขายและปริมาณงานในปีนี้ให้เพิ่มขึ้น บริษัทจึงหันมารับงานติดตั้งงานท่อลมในระบบปรับอากาศมากขึ้น และเพิ่มกลุ่มผลิตภัณฑ์ท่อร้อยสายไฟใต้ดิน เพื่อเทรดดิ้งให้กับกลุ่มลูกค้าโครงการต่างๆ ซึ่งจะช่วยดันส่วนแบ่งการตลาด(มาร์เก็ตแชร์) โดยตั้งเป้าปีนี้จะมีมาร์เก็ตแชร์งานท่อร้อยสายไฟฟ้าให้ได้มากกว่า 50% จากปี 56 ที่ 45%
"ไตรมาส 1/57 ผลประกอบการสะท้อนความมั่นใจ เป้าปีนี้รายได้ 1,000 ล้านบาทได้แน่ เพราะประเมินจากงานก่อสร้างไม่ชะลอ โครงการจริงยังอยู่ แม้โครงการภาครัฐไม่มีเลย แต่เอกชนยังมีอยู่ จากต้นปีคาดธุรกิจก่อสร้างเติบโต 4-5% ซึ่งไม่รู้ว่าจะตามเป้าหรือเปล่า เราจึงต้องสู้แข่งขันราคามากขึ้น จึงเห็นไตรมาส 1 รายได้ 247.33 ล้านบาท เกือบ 1 ใน 4 ของเป้าทั้งปี และสูงกว่าไตรมาส 1/56 ถึง 15%"นายธานินทร์ กล่าว
นายธานินทร์ กล่าวว่า หลังจากบริษัทเข้าสู่การแข่งขันราคาบ้างเพื่อแย่งมาร์เก็ตแชร์ แต่อัตรากำไรขึ้นต้นก็ไม่ได้ลดลงมาก เพราะสามารถทำยอดขายได้มากกว่างวดเดียวกันปีก่อน โดยอัตรากำไรขั้นต้นลดลงจาก 27% ในปี 56 มาอยู่ที่ 25% ถือว่าไม่ได้เป็นนัยสำคัญ เพราะบริษัทได้ประเมินอัตรากำไรขั้นต้นปีนี้ไว้ในช่วง 23-28% เพื่อรักษาอัตรากำไรสุทธิเป็นตัวเลข 2 หลัก จากในปี 56 อยู่ที่ 13.5% ปีนี้ก็จะรักษาไม่ให้ต่ำกว่าหรืออยู่ในช่วง 12-15%
นอกจากนั้น บริษัทยังหันไปเพิ่มรายได้จากการส่งออกในปีนี้ให้เป็น 120 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนส่งออก 12% จากปีก่อนที่มีรายได้จากการส่งออกอยู่ที่ 60 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนส่งออก 7.33% โดยมองตลาดเอเชียเป็นหลัก ประกอบกับ โรงงานแห่งใหม่จะดำเนินการแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2/57 จะทำให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 30%
"โรงงานใหม่เสร็จปลายพ.ค.นี้ ปลายไตรมาส 2/57 เริ่มผลิตได้ โดยเบื้องจะขยายการผลิตในส่วนของท่อก่อสร้าง 12-15% ตามสัดส่วนทิศทางธุรกิจก่อสร้างที่คาดโต 4-5% เบื้องต้นขยาย 12-15% น่าจะเพียงพอ"นายธานินทร์ กล่าว