ดังนั้น ปัจจุบัน SCBS มี DW ประเภท Call Warrant บนหุ้นอ้างอิง จำนวน 52 ตัว และมี DW ประเภท Put Warrant บนหุ้นอ้างอิง จำนวน 12 ตัว ครอบคลุมผลิตภัณฑ์ DW ได้อย่างหลากหลายสามารถตอบสนองความต้องการของนักลงทุนได้อย่างดี ซึ่งการเสนอขาย DW ในครั้งนี้ บริษัทขยายหุ้นอ้างอิง จากเดิมที่อ้างอิง บน SET50 เป็น หุ้นอ้างอิงบน SET100 โดยเพิ่มหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เช่น บมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น (SAMART) หุ้นที่มีแนวโน้มผลประกอบการเด่น เช่น บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์ (QH) และหุ้นที่คาดว่าจะเข้า SET50 ในครึ่งปีหลัง เช่น ธนาคารเกียรตินาคิน (KKP) เป็นต้น โดยจะเปิดให้ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ตั้งแต่วันที่ 12 พฤษภาคม 2557 เป็นต้นไป
นอกจากนี้ SCBS ยังมีเครื่องมือช่วยนักลงทุน “Price Guideline" ซึ่งเป็นตารางราคารับซื้อคืนโดย ผู้ดูแลสภาพคล่องที่ช่วยนักลงทุนในการประมาณราคา DW ที่เหมาะสมเมื่อเปรียบเทียบกับหุ้นอ้างอิงที่ระดับราคาต่างๆ และอายุคงเหลือต่างๆ โดยคำนวณจากสูตร Black-Scholes ตามสมมติฐานที่ผู้ดูแลสภาพคล่องกำหนด โดยผู้ดูแลสภาพคล่องรับประกันราคา DW ตามตารางราคารับซื้อคืนภายใต้เงื่อนไขที่ผู้ดูแลสภาพคล่องกำหนด นักลงทุนสามารถศึกษาเงื่อนไขต่างๆและวิธีใช้ได้ใน www.scbs.com/DW
ผลิตภัณฑ์ DW ที่นำเสนอในครั้งนี้เป็นประเภท Call Warrant และ ประเภท Put Warrant ที่ผ่านการคัดสรรมาเป็นอย่างดี เป็นหุ้นอ้างอิงที่มีพื้นฐานดี จำนวน 7 ตัว ได้แก่ ประเภทสิทธิในการขาย 1.ใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ในหุ้นสามัญของ บมจ.ปตท. (PTT23P1501A) 2.ใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ในหุ้นสามัญของ บมจ.ธนาคารกรุงไทย ( KTB23P1502A) 3.ใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ในหุ้นสามัญของ บมจ.อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL23P1410A) ประเภทสิทธิในการซื้อ
4.ใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ในหุ้นสามัญของ บมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น (SAMA23C1502A) 5.ใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ในหุ้นสามัญของ บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์ (QH23C1502A) 6.ใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ในหุ้นสามัญของ บมจ.ทีพีไอ โพลีน (TPIP23C1503A) 7.ใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ในหุ้นสามัญของ บมจ.ธนาคารเกียรตินาคิน (KKP23C1503A)