"ทิสโก้ เวลธ์"แนะเพิ่มน้ำหนักลงทุนตลาดหุ้นเกิดใหม่"เอเชียเหนือ"เด่น

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday May 13, 2014 12:08 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายคมศร ประกอบผล นักกลยุทธ์การลงทุนอาวุโส ทิสโก้ เวลธ์ เปิดเผยว่า กลยุทธ์การลงทุนในเดือนพ.ค.2557 ทิสโก้ เวลธ์ แนะนำ ให้เพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้น โดยเฉพาะหุ้นเอเชียเหนือ เนื่องจากในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา เริ่มเห็นแนวโน้มการปรับพอร์ตการลงทุนมายังกลุ่มอุตสาหกรรมและประเทศที่ Valuation ต่ำ โดยเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติ (Fund Flow) เริ่มไหลเข้าตลาดหุ้นเกิดใหม่อีกครั้งหลังจากที่ไหลออกเป็นเวลา 14 สัปดาห์ติดต่อกันก่อนหน้านี้ เชื่อว่าการไหลกลับของเงินทุน สะท้อนให้เห็นถึงมุมมองที่ดีขึ้นต่อหุ้นในตลาดประเทศเกิดใหม่ ซึ่ง Valuation ยังถูกกว่าหุ้นในประเทศพัฒนาแล้วเป็นอย่างมาก การปรับพอร์ตเข้าลงทุนในประเทศที่ Valuation ต่ำ นั้นทำให้ดัชนีตลาดหุ้นในตลาดเกิดใหม่ (MSCI EM และ MSCI EM FarEast) เริ่มกลับมา Outperform ตลาดพัฒนาแล้ว (MSCI World)

ทั้งนี้เชื่อว่าเงินลงทุนต่างชาติจะยังคงไหลเข้าตลาดหุ้นเกิดใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดหุ้นเอเชียเหนือ เนื่องจากสัญญาณการฟื้นตัวของการส่งออก โดยเฉพาะการส่งออกจากกลุ่มประเทศเอเชียเหนือ โดยการส่งออกไปยังสหรัฐฯ ฟื้นตัวขึ้นจากผลกระทบของสภาพอากาศหนาวเย็นในช่วงเดือน ธ.ค. 2556 – ก.พ. 2557 และการส่งออกไปยังยุโรปและญี่ปุ่นที่เศรษฐกิจมีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดตัวเลขการส่งออกในเดือนเมษายนของไต้หวันและเกาหลีใต้ขยายตัวขึ้น 6.2% และ 9.0% ตามลำดับ

แนวโน้มการเติบโตที่ดีขึ้นของเศรษฐกิจจีน ในไตรมาสแรกของปีนี้เศรษฐกิจจีนขยายตัว 7.4% ดีกว่าตลาดคาดที่ 7.3% และใกล้เคียงกับเป้าหมายการเติบโตของรัฐบาล แม้จะเผชิญกับแรงกดดันจากการควบคุมการปล่อยสินเชื่อของรัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรีของจีน นายหลี่ เค่อ เฉียง ได้มีแถลงการยอมรับว่านโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจและความพยามในการชะลอการปล่อยกู้ ส่งผลให้เศรษฐกิจจีนชะลอตัวมากกว่าที่คาด และพร้อมที่จะเร่งลงทุนโครงการภาครัฐ เช่น โครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน สร้างถนน รถไฟ และการบริหารจัดการน้ำ ในภาคกลางและภาคตะวันตกของจีน และการเร่งสร้างที่อยู่อาศัย (Social Housing) เพื่อเร่งพัฒนาความเป็นเมืองตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจระยะยาว เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวบรรลุเป้าหมายที่ 7.5% ในปีนี้

ทั้งนี้เชื่อว่าเศรษฐกิจจีนจะฟื้นตัวขึ้นตั้งแต่ไตรมาสสองเป็นต้นไป เนื่องจากการส่งออกที่ฟื้นตัวขึ้นโดยการส่งออกของจีน เดือน เม.ย. ขยายตัว 0.9% YoY ฟื้นตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่หดตัว 6.6% ซึ่งเดือน เม.ย. เป็นเดือนสุดท้ายที่มีผลจากฐานสูงผิดปกติของปีก่อนจากใบคำสั่งซื้อปลอม ดังนั้นเราจึงคาดว่าการส่งออกของจีนจะปรับตัวขึ้นแรงตั้งแต่เดือนหน้าเป็นต้นไป การเร่งเบิกจ่ายงบประมาณของโครงการภาครัฐ จะช่วยชดเชยการชะลอตัวของการลงทุนภาคเอกชน ความตึงเครียดในภาคการเงินเริ่มผ่อนคลายลง โดยอัตราดอกเบี้ยหุ้นกู้เอกชนของจีนเริ่มปรับตัวลดลงในเดือน เม.ย. เนื่องจากตลาดเริ่มคลายความกังวลต่อประเด็นการผิดนัดชำระหนี้ และการประกาศลดอัตราการกันสำรอง (Reserve Requirement Ratio) ของธนาคารพาณิชย์ในชนบทลง 2% (Percentage Points) และ 0.5 % (Percentage Points) สำหรับธนาคารเพื่อการสหกรณ์ ซึ่งจะส่งผลให้มีสภาพคล่องเพิ่มขึ้นในระบบการเงินของชนบทอีกราว 1 แสนล้านหยวน

ส่วนต่าง Valuation ระหว่างตลาดหุ้นประเทศพัฒนาแล้วและตลาดหุ้นเกิดใหม่ ที่ยังอยู่ในระดับสูง ปัจจุบันดัชนี MSCI DM ซื้อขายอยู่ที่ P/E 15.3 เท่า เทียบกับ MSCI EM ที่ 10.8 เท่า ส่วนต่างค่า P/E ระหว่างทั้งสองดัชนี นับเป็นระดับสูงสุดนับจากปี 2549 4) ความตึงเครียดระหว่างยูเครนและรัสเซีย ผ่อนคลายลง ในช่วงปลายเดือน เม.ย. กลุ่มผู้สนับสนุนรัสเซียได้จับเจ้าหน้าที่ผู้สังเกตการณ์ทหารของยุโรป (European Military Observers) เป็นตัวประกัน และยึดสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่งในยูเครน สหรัฐฯ และสหภาพยุโรป ตอบโต้ด้วยการประกาศคว่ำบาตรต่อนักธุรกิจ นักการเมืองและบริษัทที่มีความเกี่ยวข้องกับรัฐบาลรัสเซียเพิ่มเติมจากที่เคยประกาศไว้ในช่วงกลางเดือน มี.ค. อย่างไรก็ดีมาตรการคว่ำบาตรดังกล่าว ยังถือว่ามีความรุนแรงน้อยกว่าที่ตลาดคาด และตลาดหุ้นรัสเซีย รวมถึงตลาดหุ้นอื่นๆ ทั่วโลก จึงกลับมาฟื้นตัวขึ้นหลังมีการประกาศมาตรการคว่ำบาตร


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ