APCO คาด H2/57 โตชัด ทั้งปีกำไรไปถึง 200 ลบ.,เล็งดึงสิงคโปร์ร่วมทุน

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday May 14, 2014 11:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพิเชษฐ วิริยะจิตรา กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์(APCO)กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"ว่า บริษัทตั้งเป้าทำกำไรในปี 57 ได้ถึง 200 ล้านบาท เพิ่มจากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 79 ล้านบาท หลังจากคาดว่ายอดขายจะเติบโตอย่างน้อย 50% ปรับเพิ่มจากเดิมที่คาดว่าจะเติบโตอย่างน้อย 20% หรือยอดขายเพิ่มมาเป็นอย่างน้อย 500 ล้านบาทหรือแตะ 600 ล้านบาท จากเดิมตั้งเป้าไว้ 400 ล้านบาท โดยปีก่อนมีรายได้ 355 ล้านบาท

ขณะที่อัตรากำไรสุทธิ(Net Profit Margin)ปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 35% โดยไตรมาส 1/57 ปรับขึ้นมาที่ 30% และในไตรมาส 2/57 เริ่มปรับขึ้นมาเข้าใกล้เป้าหมาย จากปีก่อนที่มีอัตรากำไรสุทธิ 22% หลังจากบริษัทปรับเปลี่ยนมาเน้นการขายในรูปแบบ Telemarketing ที่สร้างอัตรากำไร(มาร์จิ้น)ได้ดีกว่า

ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังยอดขายจะเติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จากที่บริษัทแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายบริษัทในจีนเมื่อเม.ย.ทีผ่านมา โดยตัวแทนจากจีนได้นำผลิตภัณฑ์ BIM เข้าจดทะเบียนในตลาดจีนแล้ว และเริ่มทำการตลาดในเมืองเซี่ยงไฮ้ก่อน ขณะเดียวกันบริษัทจากเยอรมันจะเข้ามาช่วยด้านการตลาดในจีนอีกแรงหนึ่ง คาดว่ายอดขายในตลาดจีนจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ขณะที่ตลาดในประเทศในปีนี้บริษัทจะหันมาเน้นเพิ่มช่องทางการจำหน่ายให้มากขึ้น หลังจากบริษัทได้ออกโฆษณาผ่านทีวีช่อง Blue Sky ตั้งแต่ปลายปี 56 จากเดิมโฆษณาผ่านช่อง TNN เพียงช่องเดียว ส่งผลให้ยอดขายในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ออกมาดีมาก สวนกระแสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวจากการเมือง เนื่องจากกลุ่มผู้ชมช่อง Blue Sky เป็นคนชนชั้นกลางที่มีอำนาจซื้อ และมีความเข้าใจผลิตภัณฑ์ของบริษัทคือผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพ โดยเฉพาะสินค้าภายใต้แบรนด์"BIM"ที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันสมดุล

บริษัทจัดตั้งศูนย์"BIM Healthcare Center"ตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป ซึ่งในปีนี้มีแผนเปิด 4 แห่งได้แก่ เอสพลานาด สยามพารากอน เป็นต้น โดยจะมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญประจำศูนย์คอยให้ข้อมูลเพื่อขยายลูกค้ากลุ่ม A ซึ่งรวมถึงนักลงทุน และจะให้สิทธิพิเศษกับผู้ถือหุ้น APCO ในการเข้ารับข้อมูล เพื่อให้กลุ่มลูกค้าเกิดความมั่นใจ และช่วยยกระดับผลิตภัณฑ์ให้เข้าถึงลูกค้ากลุ่ม B และกลุ่ม C ได้ง่ายขึ้น ซึ่งในที่สุดบริษัทจะสามารถขยายฐานลูกค้าไปได้ทุกกลุ่ม

นอกจากนี้ บริษัทจะนำเสนอผลิตภัณฑ์ BIM ให้กับกลุ่มแพทย์ในการประชุมวิชาการที่คาดว่าจะจัดประชุมในช่วงครึ่งปีหลัง ด้วยการนำเสนองานวิจัยผลิตภัณฑ์ BIM ที่สามารถสร้างภูมิคุ้มกันให้สมดุลกับร่างกายเป็นมิติใหม่ของวงการสุขภาพ ทำให้การรักษาโรคต่างๆ ได้แก่ เบาหวาน และ มะเร็ง มีแนวทางรักษาได้ ซึ่งมองว่ามีแนวโน้มที่ดีมาก

*ใช้พันธมิตรสิงคโปร์เป็น spring board เข้าตลาดตปท.

นายพิเชษฐ์ กล่าวว่า จากความสำเร็จที่ตัวแทนจำหน่ายในจีนได้รู้จัการผลิตภัณฑ์ BIM ในประเทศสิงคโปร์ ผ่าน Natural Cancer Center ซึ่งเป็นศูนย์ผู้ดูแลผู้ป่วยเป็นมะเร็ง ดังนั้น บริษัทจึงเห็นว่าจะใช้พันธมิตรสิงคโปร์เป็น Spring Board ให้ช่วยสร้างช่องทางการจำหน่ายให้กระจายสินค้าไปยังต่างประเทศ เนื่องจาก Natural Cancer Center เป็นสถาบันที่สามารถสร้างความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์ BIM และเป็นจุดที่ผู้ปวยหลายชาติเข้ามใช้บริการ จากเดิมที่ผู้สนใจเป็นตัวแทนประเทศนั้นๆต้องติดต่อโดยตรงกับบริษัท ซึ่งดำเนินการล่าช้ากว่า แต่เปลี่ยนมาให้พันธมิตรสิงคโปร์เจรจาติดต่อให้แลกกับคอมมิชชั่นของยอดขาย

จากปัจจุบัน APCO มีตลาดในเอเชีย ยกเว้นจีน ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย เวียดนาม อินโดนีเซีย และไต้หวัน โดยคิดเป็นสัดส่วน ประมาณ 20% ยองยอดขายรวมในปีก่อน หรือประมาณ 40-50 ล้านบาท แต่ในปีนี้คาดหวังตลาดจีนมาก จึงคาดว่าน่าจะเพิ่มสัดส่วนได้มาก นอกจากนี้บริษัทอยู่ระหว่างรอการแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายในสหรัฐด้วย

ส่วนความร่วมมือกับพันธมิตรในอิตาลี และได้แต่งตั้งบริษัท เวนาโฟร จำกัด เป็นตัวแทนจำหน่ายเพื่อเจาะเข้าตลาดอียูแล้ว นายพิเชษฐ์ กล่าวว่า ณ ขณะนี้ยังไม่มีการจำหน่ายแต่อย่างใดจากพันธมิตรอิตาลี โดยคาดว่าการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของบริษัทเป็นไปได้ยาก เพราะยังขาดความเชื่อมั่น เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์จากไทยที่ยังมีปัญหาการเมืองและเศรษฐกิจ ซึ่งคงต้องใช้เวลาในการทำตลาด

*เตรียมนำหุ้นเพิ่มทุน 28 ล้านหุ้นขายให้พันธมิตรพร้อมดันเข้า SET

นายพิเชษฐ์ กล่าวว่า บริษัทได้เตรียมหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 28 ล้านหุ้นเสนอขายให้แก่กลุ่มนักลงทุนเฉพาะเจาะจง(PP)จากปัจจุบันที่มีทุนจดทะเบียน 272 ล้านบาท หรือ 272 ล้านหุ้น และหากสามารถขายหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าวได้จะมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วครบ 300 ล้านบาทที่เข้าหลักเกณฑ์ที่จะย้ายหุ้น APCO จากตลาด mai มายังตลาด SET ได้

"วัตถุประสงค์ ที่นำหุ้นเข้า SET เพราะต้องการให้ต่างประเทศรู้จักบริษัทเรามากขึ้น และเป็นการสร้างความเชื่อมั่นใน Brand ของเรา...การเข้า SET เราไม่เร่งรีบ" นายพิเชษฐ์ กล่าว

นายพิเชษฐ์ กล่าวว่า บริษัทต้องการใช้เวลาเลือกเฟ้นพันธมิตรที่เข้ามาร่วมมือ เพราะเรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาบริษัท แต่บริษัทต้องการพันธมิตรที่ช่วยสร้างความแข็งแกร่ง รวมทั้งช่วยกระจายผลิตภัณฑ์ของบริษัทที่ได้จากการวิจัยของคณะแพทย์และนักวิทยาศาสตร์ของบริษัทรวมถึงตัวเองที่ใช้เวลาทำวิจัยมากกว่า 30 ปี หรือค่อนครึ่งชีวิต

ดังนั้น หนึ่งในพันธมิตรที่มองไว้เป็นผู้ร่วมทุนใน APCO คือพันธมิตรสิงคโปร์ แต่ยังขอรอดูผลงงานก่อน นอกจากนี้ ยังมีหลายรายเข้ามาติดต่อขอร่วมทุนเป็นพันธมิตรด้วย เช่น กลุ่มร้านขายยาในประเทศ เป็นต้น

อนึ่ง APCO ได้เคยตั้งเป้าว่าบริษัทจะย้ายเข้าตลาด SET ในปี 58

ช่วง 3 ปีข้างหน้าบริษัทตั้งเป้าเป็นบริษัทที่มีผลิตภัณฑ์สร้างภูมิคุ้มกันอย่างสมดุลเป็นอันดับหนึ่งของอาเซียน เพราะเล็งเห็นว่าการสร้างความสมดุลของภูมิคุ้มกันจะเป็นมิติใหม่ในการดูแลสุขภาพในอนาคต พร้อมคาดว่าผลประกอบการในช่วง 3 ปีจากนี้ไปจะเติบโตปีละเป็น 2 เท่า

ราคาหุ้น APCO ตั้งแต่เข้าตลาด mai ที่ราคา IPO 2.80 บาท เมื่อ 4 พ.ย.54 นั้นไต่ขึ้นมาตลอดจนมาทำจุดสูงสุดที่ ระดับราคา 12.50 บาทเมื่อวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา จากราคาเมื่อสิ้นปี 56 อยู่ที่ 11.10 บาท และ 8.40 บาทในสิ้นปี 55


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ