CHOW ตั้งเป้าปริมาณขายปีนี้ 3-3.2 แสนตัน จากปีก่อน 2.8 แสนตัน หลังราคาลด 10%

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday May 14, 2014 13:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอนาวิล จิรธรรมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เชาว์ สตีล อินดัสทรี้(CHOW) กล่าวว่า อุตสาหกรรมเหล็กแท่งยาว(Steel Billet)ในปีนี้ยังมีสัญญาณเติบโตต่อเนื่องได้ เนื่องจากราคาเหล็กในตลาดที่ปรับลดลงจากปีก่อนประมาณร้อยละ 10 ทำให้โรงงานเหล็กรูปพรรณที่เป็นลูกค้าของบริษัทฯ หันมาซื้อสินค้าเข้าสต็อกเพิ่มขึ้น จึงทำให้ยอดขายปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ดังกล่าว ซึ่งในปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายปริมาณการขายไว้ที่ 300,000-320,000 ตัน จากปีก่อนที่ทำได้ 280,000 ตัน

ทั้งนี้ ผลประกอบการไตรมาส 1/57 บริษัทมีกำไรสุทธิที่เป็นส่วนของบริษัทใหญ่ในงบเฉพาะกิจการ จำนวน 44.45 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 19.52 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 37.19 ล้านบาท ปัจจัยหลักมาจากปริมาณขายเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จึงส่งผลให้รายได้และกำไรสุทธิเติบโตในทิศทางเดียวกัน

“ไตรมาสที่ 1/57 เราสามารถทำกำไรให้เติบโตเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนได้ ซึ่งเป็นผลมาจากปริมาณการขายเพิ่มขึ้น ตามคำสั่งซื้อของลูกค้าที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับได้มีการบริหารจัดการภายในอย่างมีประสิทธิภาพ จึงสะท้อนให้กำไรสุทธิเติบโตต่อเนื่องจากปีก่อนได้ดังกล่าว" นายอนาวิล กล่าว

งวด 3 เดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.57 บริษัทฯ มีปริมาณการขายเหล็กแท่งทรงยาวจำนวน 81,557 ตัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 52,742 ตัน เพิ่มขึ้น 28,815 ตัน หรือร้อยละ 54.63 ส่งผลให้มีรายได้จากการขายและการให้บริการในงบเฉพาะกิจการรวม 1,398.09 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 385.97 ล้านบาท จากรายได้ 1,012.12 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีก่อน

ถึงแม้ว่าราคาขายในตลาดจะปรับตัวลดลงร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/56 แต่เมื่อรวมกับการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ และจัดระเบียบเบิกจ่ายอย่างเป็นระบบ จึงส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิจำนวน 44.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 7.26 ล้านบาท หรือร้อยละ 19.52 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 56 ซึ่งมีกำไรสุทธิที่เป็นส่วนของบริษัทใหญ่จำนวน 37.19 ล้านบาท

นายอนาวิล กล่าวอีกว่า ในการประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 5/57 เมื่อวันที่ 9 พ.ค.57 ที่ประชุมได้มีมติอนุมัติการร่วมทุนกับ บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง(RATCH)จัดตั้งบริษัทย่อยเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่น ตามนโยบายของบริษัทฯ ที่ต้องการขยายฐานธุรกิจไปยังธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ เนื่องจากเป็นโครงการที่ก่อให้เกิดรายได้และกระแสเงินสดที่สม่ำเสมอ สนับสนุนให้ผลประกอบการของบริษัทฯ เติบโตได้อย่างแข็งแกร่งและมั่นคงในอนาคต ซึ่งจะสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ถือหุ้นในระยะยาว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ