ประกอบกับ บริษัทไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การเมืองในประเทศมากนัก เพราะส่งออกเป็นส่วนใหญ่ และหุ้นของบริษัทเป็นหุ้นที่เน้นเป็นการลงทุนระยะยาว โดยทางบริษัทฯมีนโยบายที่จะจ่ายเงินปันผลทุกๆปีในอัตราไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรสุทธิ
"สถานการณ์การเมืองที่เกิดในปัจจุบันนั้น บริษัทฯได้รับผลกระทบบ้างจากโรงงานอุตสาหกรรมในประเทศที่มีปริมาณการใช้น้ำตาลลดลงบ้าง แต่ส่วนใหญ่บริษัทได้จำหน่ายน้ำตาลไปต่างประเทศ บริษัทจึงได้รับผลกระทบไม่มาก"นายประพันธ์ กล่าว
บริษทยังมองว่าปีนี้จะเป็นปีที่ดี เนื่องจากสามารถหีบอ้อยในปริมาณเท่าเดิม แต่ได้น้ำตาลเพิ่มขึ้นถึง 1.2 ล้านกระสอบ ในขณะเดียวกันแนวโน้มราคาน้ำตาลของตลาดโลกมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น เพราะปริมาณน้ำตาลปีนี้ต่ำกว่าปริมาณความต้องการบริโภค
"ปีนี้เป็นปีที่อ้อยมีคุณภาพดีมากให้ค่าความหวานที่สูงมาก ทำให้จากจำนวนอ้อยที่เราหีบเท่าเดิมคือ 9.9 ล้านตัน แต่ได้น้ำตาลเพิ่มขึ้นถึง 1.2 ล้านกระสอบ หรือ 1.2 แสนตัน ขณะที่ราคาน้ำตาลในตลาดโลกมี่แนวโน้มสูงขึ้น ปัจจุบันราคาน้ำตาลอยู่ที่ 18 เซนต์/ปอนด์ จากก่อนหน้านี้ที่จุดต่ำสุดอยุ่ที่ 14 เซนต์/ปอนด์ เพราะความต้องการน้ำตาลค่อนข้างมาก แต่ Supply อยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ"นายประพันธ์ กล่าว
ราคาหุ้น KTIS วันนี้ปิดที่ 10.40 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท (+10.64%)