สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB196A, LB176A และ LB236A (รุ่นอายุ 5.1 ปี, 3.1 ปี และ 9.1 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 11,543 ล้านบาท หรือคิดเป็น 60% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. หุ้นกู้ของบริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) (PS185A) มูลค่า 200.1 ล้านบาท
2. หุ้นกู้มีประกันของบริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง(ประเทศไทย) จำกัด (TLT155A) มูลค่า 190.3 ล้านบาท
3. หุ้นกู้มีประกันของบริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด (TLT164A) มูลค่า 181.4 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 571.9 ล้านบาท หรือคิดเป็น 38.5% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 15,515 ล้านบาท
2. กลุ่มสถาบันการเงินที่ไม่มีใบอนุญาตเพื่อค้าตราสารหนี้ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 2,773 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 1,555 ล้านบาท
ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.03% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 2.99% ปรับตัวลดลงจากเมื่อวาน -0.03%
Yield Curve ปรับลดลง ในพันธบัตรรุ่นอายุ 3 ปีขึ้นไป ประมาณ 1-3 bps. ในทิศทางเดียวกับ US Treasury โดยพันธบัตรรัฐบาล รุ่นอายุ 23 ปี ที่ประมูลวันนี้ ได้รับความสนใจจากนักลงทุน 1.75 เท่าของวงเงินประมูล ด้านตลาดยังคงติดตามตัวเลขเศรษฐกิจทั้งของสหรัฐฯ และจีน ที่มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง ส่งผลต่อ Global Sentiment ในเชิงบวก สำหรับนักลงทุนต่างชาติวันนี้ มียอดซื้อสุทธิ (NET BUY) เท่ากับ 1,555 ล้านบาท