ขณะเดียวกัน ในไตรมาส 2/57 บริษัทคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้จากโครงการอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้การบริหารโครงการของบริษัทฯ โดยเฉพาะโครงการอาคารพาณิชย์บนถนนรัชดาภิเษก ซึ่งเป็นที่ดินบนสิทธิการเช่าของการรถไฟแห่งประเทศไทยที่ได้ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะที่ความคืบหน้าสำหรับโครงการก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์ที่เมืองพัทยา ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นที่ดินติดชายทะเล บนเนื้อที่ประมาณ 384 ตารางวา ก็ผ่านการประเมินผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม (EIA) จากสำนักวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (สผ.) แล้วเช่นกัน
“ทั้งธุรกิจหลักและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ภายใต้การบริหารของ TWZ ยังคงมีโอกาสในการขยายตัวอีกมาก โดยเฉพาะธุรกิจหลักที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสื่อสารโทรคมนาคม ซึ่งหลังจากนี้ TWZ จะขยายเข้าสู่ธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคมในหลากหลายรูปแบบ เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับบริษัทฯและผู้ถือหุ้น ซึ่งจากผลการดำเนินงานในปี 2556 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ประกาศจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.015 บาท กำหนดจ่ายในวันที่ 15 พฤษภาคม ดังนั้น จึงขอให้ผู้ถือหุ้นมั่นใจที่จะเติบโตไปกับ TWZ ในช่วงเวลาของการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยี ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีของบริษัทฯ ที่จะเติบโตตามไปด้วยอย่างมั่นคง" กรรมการผู้จัดการ TWZ กล่าว
ผลประกอบการไตรมาส 1/57 (มกราคม-มีนาคม) ว่า บริษัทฯ มีกำไรสุทธิสำหรับงบการเงินเฉพาะกิจการ 8.08 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.43ล้านบาท คิดเป็น 43% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 5.65 ล้านบาท โดยมีรายได้จากการขายและบริการ 925.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.35 ล้านบาท คิดเป็น 4.2% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ที่บริษัทฯมีรายได้จากการขายและบริการ 888.54 ล้านบาท ขณะที่งบการเงินรวม บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 4.46 ล้านบาท และมีรายได้จากการขายและบริการ 926.04 ล้านบาท
“แม้ว่า ในช่วงไตรมาสแรกจะเป็นช่วงที่ภาพรวมเศรษฐกิจประสบปัญหาชะลอตัว จากสถานการณ์ทางการเมืองที่ยืดเยื้อ ส่งผลกระทบกับกำลังซื้อของผู้บริโภค แต่ยอดขายสินค้าของ TWZ ทั้งในส่วนของโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่บริษัทฯ ร่วมเป็นตัวแทนจำหน่าย รวมถึงสมาร์ทโฟนแบรนด์ TWZ เอง ก็ยังได้รับความนิยมและการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีรายได้จากการขายอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ที่ใช้ร่วมกับโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งเป็นสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูง และสร้างผลตอบแทนให้กับ TWZ ได้อย่างน่าพอใจ ส่งผลให้งบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัทฯ มีกำไรเพิ่มขึ้นถึง 43%" นางปิยะนุช กล่าว
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของงบการเงินรวมบริษัทย่อยนั้น บริษัทฯ มียอดขายเพิ่มขึ้น 3.8% ในขณะที่กำไรสุทธิลดลง เนื่องจากในไตรมาสแรกของปีนี้ บริษัทฯ ยังไม่ได้รับรู้รายได้จากบริษัทย่อยซึ่งดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ทำให้มีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้น โดยบริษัทฯ คาดว่าจะสามารถทยอยรับรู้รายได้จากโครงการดังกล่าวได้ภายในปีนี้