นายอารักษ์ สุขสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ ECF กล่าวว่า สำหรับกลุ่มลูกค้าเดิมในประเทศญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และฟิลิปปินส์ มีแนวโน้มเพิ่มปริมาณคำสั่งซื้อมากขึ้น โดยเป็นผลจากการขยายธุรกิจเฟอร์นิเจอร์และความต้องการของตลาดในประเทศต่างๆเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อรายได้การส่งออกโดยคาดว่าอัตราการเติบโตของยอดขายตลาดต่างประเทศปีนี้จะอยู่ที่ประมาณ 15% ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีมูลค่าคำสั่งซื้อ (Backlog) อยู่ที่ประมาณ 500 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้รายได้ภายในปีนี้
สำหรับตลาดในประเทศคาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังจะมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น ซึ่งขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างเตรียมการปรับภาพลักษณ์เฟอร์นิเจอร์ แบรนด์ ELEGA ใน Index Living mall และ Homepro จำนวน 14 สาขา รวมทั้งมีแผนขยายโชว์รูมเพิ่มอีก 6 สาขาในช่วงครึ่งปีหลัง คาดว่าจะมีกระแสตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าระดับกลาง-บน เนื่องจากปัจจุบันเฟอร์นิเจอร์ไม้จริงที่มีรูปแบบและดีไซน์ระดับ Luxury ได้รับความนิยมมากขึ้น
“นอกจากการขยายตลาดต่างประเทศและในประเทศแล้ว ECF ยังมีการเตรียมความพร้อมด้านการเพิ่มกำลังการผลิต การกระจายสินค้า ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อรองรับปริมาณคำสั่งซื้อของลูกค้าที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการติดตั้งเครื่องจักรใหม่ที่โรงงานจังหวัดระยอง โดยจะแล้วเสร็จพร้อมเดินเครื่องผลิตภายในไตรมาส 2 อีกทั้งยังอยู่ระหว่างการขยายคลังสินค้าที่ลำลูกกาให้รองรับปริมาณสินค้าได้มากขึ้น สามารถกระจายสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทันต่อความต้องการของลูกค้า"นายอารักษ์ กล่าว
นายอารักษ์ กล่าวต่อว่า บริษัทฯ ปรับเพิ่มเป้าหมายรายได้ปีนี้เป็น 15-18% จากเดิมคาดว่าจะอยู่ที่ 15% จากที่บริษัทฯได้มีการเจรจากับลูกค้าญี่ปุ่นรายใหญ่ ซึ่งคาดว่าจะสามารถสรุปได้ในเดือน มิ.ย.นี้ ซึ่งจะส่งผลต่อรายได้ของบริษัทฯปรับเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
สำหรับไตรมาส 2/57 บริษัทฯคาดว่า รายได้จะเติบโตได้ 15% ซึ่งใกล้เคียงกับไตรมาสแรกที่ผ่านมา และกำไรก็เช่นเดียวกัน เนื่องจากมีออเดอร์จากลูกค้าเข้ามาอย่างต่อเนื่องจากไตรมาสแรก รวมถึงเศรษฐกิจโลกปรับตัวดีขึ้น ซึ่งเป็นตัวที่เข้ามาทดแทนตลาดในประเทศที่ชะลอตัวได้ พร้อมกันนี้มองว่าไตรมาส 3-4 จะเติบโตดีขึ้น โดยบริษัทฯจะมีการขยาย Warehouse เพื่อรองรับสินค้าก่อนส่งมอบให้ลูกค้า หลังมีออเดอร์เข้ามามากขึ้น
นอกจากนี้บริษัทมีแผนขยายช่องทางการจัดจำหน่ายเพิ่ม โดยเป็นกลุ่มโมเดิร์นเทรด ซึ่งจะมีการเซ็นสัญญาในช่วงไตรมาส 3 นี้กับ ห้างสรรพสินค้าแม็คโคร และไทยวัสดุ อย่างไรก็ตามยังมีแผนขยายโชว์รูม ELEGA อีก 6 แห่ง จากปัจจุบันมีอยู่ 14 แห่ง ภายในปีนี้อีกด้วย ซึ่งแบ่งเป็น โคราช 2 แห่ง พัทยา 2 แห่ง เชียงใหม่ และศรีราชา โดยวางงบการตลาดไว้ 60 ล้านบาท
ขณะที่การเจรจากับพันธมิตรเพื่อเข้าไปรับงานตกแต่งภายในขนาดใหญ่ มูลค่าหลายล้านบาท ขณะนี้มีการเจรจาดังกล่าวไปแล้วกว่า 80-90%
ทั้งนี้ภาพรวมอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ในปีนี้มองว่าการเติบโตของการส่งออกไปต่างประเทศจะเติบโตได้ 5-8% โดยสอดคล้องกับที่อุตสาหกรรมฯคาดไว้ว่าการส่งออกจะเติบโตได้ 8.63% และกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้คาดไว้ที่ 5% ซึ่งการส่งออกน่าจะปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องได้ในปีนี้
ส่วนผลประกอบการไตรมาส 1/57 บริษัทมีรายได้จากการขายจำนวน 327.48 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 43.74 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการขายจำนวน 283.73 ล้านบาท หรือ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 15.42% และมีกำไรสุทธิจำนวน 22.60 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 12 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิจำนวน 10.61 ล้านบาท หรือ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 113%
สาเหตุที่ผลประกอบการของ ECF ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก เนื่องจากบริษัทมีรายได้จากการส่งออกเฟอร์นิเจอร์ในตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น โดยเป็นผลจากการบุกตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา ส่งผลให้กลุ่มลูกค้าเดิมในประเทศญี่ปุ่น ตลอดจนกลุ่มลูกค้าใหม่ในประเทศฟิลิปปินส์ สหรัฐอเมริกา มีคำสั่งซื้อเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งบริษัทยังมีการควบคุมต้นทุนการผลิตให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นอยู่ที่ 26.83%