ด้านนายรัฐชทรัพย์ นิชิด้า กรรมการผู้จัดการ CHUO กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีนี้บริษัทฯจะใช้กลยุทธ์ Marketizing มาจาก Marketing (การตลาด) Strategy (กลยุทธ์) และการโฆษณา (Advertizing) มาใช้ในการให้บริการแก่ลูกค้า
กลยุทธ์การตลาดรูปแบบใหม่นี้ไม่เพียงแต่มุ่งเน้นเรื่องของการทำโฆษณาเท่านั้ แต่ยังเป็นการนำความเข็งเกร่งของบริษัทฯด้านสื่อดิจิตัล และการบริการออกแบบตกแต่งศูนย์บริการลูกค้า เพื่อให้ช่องทางในการสื่อสารกว้างขึ้น ทั้งยังเป็นการผรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของวงการโทรทัศน์จากระบบอนาล็อค สู่ยุคดิจิตัล ทีวี ซึ่งทำให้ผู้บริโภคมีช่องทางที่หลากหลายในการรับรู้ข่าวสาร และความบันเทิงที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งทางบริษัทฯในฐานะที่เป็นเอเยนซี่ ได้มีการศึกษาและหาแนวทางในการเผยแพร่งานโฆษณาและประชาสัมพันธ์เพื่อให้ครอบคลุมเกิดประสิทธิภาพอย่างสูงสุดทั้งต่อองค์กรและลูกค้า
"ถึงแม้ปัญหาการเมืองที่ยังไม่นิ่งจะเป็นปัจจัยที่มีส่วนส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมโฆษณาประชาสัมพันธ์ในประเทศไทย แต่เราก็ยังคงเล็งเห็นภึงการเติบโต และยังเชื่อมั่นว่าด้วยแผนการดำเนินธุรกิจที่ตอบโจทย์และสนองความต้องการลูกค้าอย่างครบวงจร และความเข็งเกร่งของทีมงานจะสามารถผลักดันให้ธุรกิจดำเนินต่อไปและมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำรายได้ตามเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้" นายชูจิ โอคาวะ กล่าว
นายชูจิ กล่าวต่อว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้แตะ 400 ล้านบาท จากปีก่อนที่บริษัทมีรายได้ราว 387 ล้านบาท เนื่องจากในปีนี้บริษัทฯได้เข้าไปรับงานจากรัฐวิสาหกิจ จากที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้มีงานจากภาครัฐวิสาหกิจ โดยปัจจุบันได้รับงานมาแล้ว 1 งานจากบมจ. กสท โทรคมนาคม มูลค่าราว 40 ล้านบาท ในขณะเดียวกันยังอยู่ระหว่างเข้าประมูลงานใหม่อีก 2-3 มูลค่าราว 200 ล้านบาท คาดหวังว่าจะได้รับงานราว 50% โดยคาดว่าจะรู้ผลการประมูลในไตรมาส 3-4 /57
สำหรับอุตสาหกรรมโฆษณาปีนี้คาดว่าจะเติบโตได้ราว 1% จากปีก่อนที่มีมูลค่าราว 1.15 แสนล้านบาท เนื่องจากบริษัทต่างๆ ได้มีการลดงบลงทุนด้านโฆษณาลงจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจ โดยเฉพาะค่าโฆษณาในอุตสาหกรรมยานยนต์ แต่อย่างไรก็ก็ตามในอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอาหารยังมีการเติบโต
"ปีนี้รายได้ของเรายังมีการเติบโตได้ถึงแม้ว่าบางบริษัทจะมีการลดค่าใช้จ่ายด้านโฆษณาลง จากเศรษฐกิจที่มีการชะลอตัว แต่เราก็ได้เข้าไปเน้นรายได้จากต่างประเทศมากขึ้น รวมถึงการเข้าไปรับงานจากรัฐวิสาหกิจที่ก่อนหน้านี้เราไม่เคยมีงานมาก่อน"นายชูจิ กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทฯตั้งเป้าที่จะเพิ่มสัดส่วนรายได้ในต่างประเทศเพิ่มเป็น 40% ใน 5 ปี จากปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศอยู่ 25% และรายได้จากในประเทศ 75% เนื่องจากปัจจุบันเศรษฐกิจในประเทศมีการชะลอตัว ส่งผลให้อุตสาหกรรมโฆษณามีการชะลอตัวลงไปด้วย โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมรถยนต์ที่มีการลดงบการโฆษณาลง โดยการไปบุกต่างประเทศนั้นจะเน้นในประเทศอินโดนีเซีย และอินเดีย ที่มีแนวโนมการเติบโตที่ค่อนข้างสูง