ขณะที่ผลประกอบการในไตรมาส 1/57 เติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยมีรายได้รวมอยู่ที่ 1,023.37ล้านบาท เพิ่มขึ้น 772.48 ล้านบาท หรือเติบโต 307.89% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้อยู่ที่ 250.89 ล้านบาท ขณะที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 78.86 ล้านบาท ซึ่งเป็นกำไรจากการดำเนินธุรกิจก่อนรวมและหักค่าใช้จ่ายอื่นๆ อยู่ที่ 89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 70 ล้านบาท หรือเติบโต 368.42% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรจากการดำเนินธุรกิจก่อนรวมและหักค่าใช้จ่ายอื่นๆ อยู่ที่ 19 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯได้ดำเนินธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้มีจำนวนคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่สามารถบริหารจัดการด้านต้นทุนได้อย่างดีเยี่ยม
“ผลประกอบการในไตรมาส 1/57 เติบโตอย่างต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/56 โดยเป็นไปตามเป้าหมายที่เราวางไว้ เป็นผลมาจากการเติบโตในส่วนของโอเปอเรชั่นเป็นหลัก ซึ่งเราได้ทำงานแบบเชิงรุก พร้อมกับการขยายฐานลูกค้าใหม่และรักษาฐานลูกค้าเก่าอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผลประกอบการออกมาอย่างดีที่สุด พร้อมคาดว่าแนวโน้มในไตรมาส 2/57 จะดีต่อเนื่องขึ้นไปอีก หลังจากได้มีการเพิ่มกำลังการผลิตในทุกส่วนผลิตภัณฑ์ โดยกำลังการผลิตเสาเข็มเพิ่มเป็น 33,700 คิว จาก 23,500 คิว รวมถึงเพิ่มยอดขายผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เช่น เหล็กและปูนซีเมนต์ เป็นต้น" นายธวัช กล่าว
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติเปลี่ยนแปลงการดำรงตำแหน่งของ นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ จากตำแหน่งกรรมการ เป็น ตำแหน่งประธานกรรมการ และเปลี่ยนแปลงการดำรงตำแหน่งของ นายโสภณ ผลประสิทธิ์ จากตำแหน่งประธานกรรมการ เป็นตำแหน่งรองประธานกรรมการ และแต่งตั้งนายวุฒิชัย เศรษฐบุตร เข้าดำรงตำแหน่งกรรมการและกรรมการบริหาร แทน นายกฤษฎา เจริญกลกิจ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 12 พฤษภาคม 2557 เป็นต้นไป
อีกทั้ง ที่ประชุมยังมีมติอนุมัติให้จัดสรรและเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 1,815,000,000 หุ้นให้กับบุคคลในวงจำกัดโดยเฉพาะเจาะจง จำนวน 5 ราย ในราคาจองซื้อ 0.55 บาท โดยหากคำนวณราคาปิด 7 วัน ราคาเฉลี่ยเท่ากับ 0.6078 บาท ซึ่งหากคิดในอัตรา 90% จะเท่ากับ 0.547 บาท ดังนั้นทางบริษัทจึงตกลงกับนักลงทุนที่จะให้จองซื้อเท่ากับ 0.55 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ตรงตามเงื่อนไขของนักลงทุน
โดยจัดสรรให้นักลงทุน ดังนี้ 1.นางสาวพรนที สมพงษ์ชัยกุล จำนวน 445,000,000 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 0.55 บาท มูลค่า 244,750,000 ล้านบาท ,2.นายสันติ เชาวนันทกุล จำนวน 450,000,000 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 0.55 บาท มูลค่า 247,500,000 ล้านบาท ,3.นายภานุรักษ์ แสงอร่าม จำนวน 280,000,000 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 0.55 บาท มูลค่า 154,000,000 ล้านบาท ,4.นายตรีขนิษฐ์ มากรักษา จำนวน 280,000,000 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 0.55 บาท มูลค่า 154,000,000ล้านบาท และ 5. นายทวี กุลเลิศประเสริฐ จำนวน 360,000,000 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 0.55 บาท มูลค่า 198,000,000 ล้านบาท