"ในส่วนเมียนมาร์ บริษัทได้เข้ารอบประมูล 1 ใน 8 รายของโรงไฟฟ้าที่มัณฑะเลย์ กำลังการผลิต 200 เมกะวัตต์ คาดว่ารัฐบาลพม่าจะตัดสินและประกาศผู้ชนะประมูลได้ไม่เกิน ส.ค.นี้"นายพงษ์ดิษฐ กล่าว
ส่วนปีนี้คาดว่ากำไรสุทธิจะสูงกว่าปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 6.18 พันล้านบาท เนื่องจากกปีนี้บริษัทสามารถลดต้นทุนโรงไฟฟ้าเก่าทุกแห่งแม้ว่าจะไม่มีกำลังผลิตใหม่เข้ามาในปีนี้
และตามแผนธุรกิจ 10 ปี (ปี 57-66) บริษัทจะใช้เงินลงทุนประมาณ 3 แสนล้านบาทเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตอีก 3,857 เมกะวัตต์ เป็น 9,700 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันมีกำลังการผลิตและอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการรวม 6,543 เมกะวัตต์ โดยปีหน้า (ปี 2558) จะใช้วงเงินลงทุน 1.2 หมื่นล้านบาท สูงกว่าปีนี้ที่ใช้งบลงทุน 4.6 พันบ้านบาท โดยปีหน้ามีการลงทุนในโครงการหงสา 5 พันบ้านบาทเพื่อจ่ายส่วนทุน
นายพงษ์ดิษฐ กล่าวว่า กำลังการผลิตที่จะเพิ่มใหม่เข้ามาจะมาจากนอกประเทศ โดยมีพื้นที่เป้าหมายที่เมียนมาร์ และสปป.ลาว ที่เหลือจะมาจากอินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ส่วนในออสเตรเลียและญี่ปุ่นจะเป็นพลังงานทดแทนทั้งโรงไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานลม