อย่างไรก็ตาม ผลสำเร็จจากแคมเปญ “อิชิตัน ลุ้นรหัสรวยเปรี้ยง ภาค 3" ประกอบกับการลดสัดส่วนการว่าจ้างผลิตลงจาก 25% เป็น 9% ส่งผลให้ความสามารถทำกำไรสุทธิ 202 ล้านบาท เติบโต 7.4% จากไตรมาส 4/56 และ 15% จากไตรมาส 1/56 ซึ่งถ้าคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิก่อนกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจะเติบโตเพิ่มขึ้น 8.6% จากไตรมาส 4/56 และ 48.7% จากไตรมาส 1/56
ผลประกอบการในไตรมาส 1/57 เติบโตเพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นช่วงเข้าสู่ไฮซีซั่นของธุรกิจเครื่องดื่ม ประกอบกับอากาศร้อนขึ้นทุกปี ส่งผลให้แคมเปญการตลาดประสบความสำเร็จตั้งแต่เดือนมีนาคม ซึ่งเป็นเดือนแรกของกิจกรรมและคาดว่าจะยังส่งผลต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาส 2/57 จากผลการสำรวจล่าสุด ในเดือนมีนาคม 2557 อิชิตันยังคงครองส่วนแบ่งการตลาดถึง 49% เป็นอันดับ 1 ต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา และอีกปัจจัยที่สำคัญคือการแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้แบรนด์ “อิชิตัน ซีเล็คเต็ด" ชาเขียวมัทฉะพร้อมดื่ม และชาอู่หลงพร้อมดื่ม สูตรหวานน้อย ตอกย้ำภาพลักษณ์การเป็นสินค้าพรีเมี่ยมเพื่อสุขภาพ
นอกจากนี้ จากการเริ่มเดินไลน์การผลิตแรกของโรงงานในเฟส 2 ทำให้สามารถปรับลดสัด ส่วนการว่าจ้างผลิต (OEM) ที่ เดิมมีสัดส่วน 25% เป็นปัจจุบันสัด ส่วน อยู่ที่ 9% ส่งผลให้มีอัตรากำไรขั้นต้นไตรมาส 1/57 คิดเป็น 36.5% เติบโตจากไตรมาส 1/56 ที่มีอัตรากำไรขั้นต้น 26.5% เติบโตเพิ่มขึ้น 26.2 % เพิ่ม ประสิทธิภาพด้านการบริหารต้นทุนสินค้าอย่างชัดเจน โดยบริษัทตั้งเป้าหมายลดสัดส่วนการว่าจ้างผลิตเมื่อจบปี 57 อยู่ที่ไม่เกิน 5% เมื่อสามารถเดินไลน์ การผลิตได้ครบในโรงงานเฟส 2 ที่ จะก่อสร้างแล้วเสร็จในช่วงปลายไตรมาส 3/57 ซึ่งจะส่งผลให้ศักยภาพของบริษัทฯ มีกำลังการผลิตแบบขวดเพิ่มขึ้นเป็น 1,000 ล้านขวดต่อปีและ 200 ล้านกล่องต่อปี