SSI เผย Q1/57 EBITDA พลิกเป็นบวก 75 ลบ.ขาดทุนลดลง 52% QoQ

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday May 16, 2014 16:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวิน วิริยประไพกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.สหวิริยาสตีลอินดัสตรี(SSI) เปิดเผยว่า งบการเงินรวมบริษัทฯ และบริษัทย่อยขาดทุนสุทธิ 1,397 ล้านบาท เป็นการขาดทุนลดลง 52% จากไตรมาส 4/56 แต่ขาดทุนเพิ่มขึ้น 80% จากงวดเดียวกันปีก่อน ขณะที่ EBITDA พลิกเป็นบวก 75 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 105% จากไตรมาสก่อน และลดลง 91% จากงวดเดียวกันปีก่อน

ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาส 1/57 บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้จากการขายและให้บริการรวม 19,011 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% จากไตรมาสก่อน และลดลง 5% จากงวดเดียวกันของปีก่อน สูงเป็นอันดับสองรองจากไตรมาส 1/56 เนื่องจากปริมาณขายเหล็กรวมสูงถึง 948 พันตัน สูงสุดเป็นประวัติการณ์รายไตรมาส

อนึ่ง SSI และบริษัทย่อย รายงานว่าไตรมาส 1/57 ขาดทุนสุทธิ 1.4 พันล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 778.02 ล้านบาท

การดำเนินงานของบริษัทในไตรมาส 1/57 ประสบความสำเร็จใน 3 ด้านหลัก ได้แก่ EBITDA กลุ่มกลับมาเป็นบวก 75 ล้านบาท หลังจากติดลบมา 3 ไตรมาส ยอดขายรวมของกลุ่มสูงสุด 948 ล้านตัน และยอดขายเหล็กแท่งแบนให้แก่บุคคลภายนอกสูงสุด 486 พันตัน

ธุรกิจโรงถลุงเหล็กมี EBITDA ติดลบลดลงกว่าครึ่งจากไตรมาสก่อน หลังจากความพยายามในการลดต้นทุนในด้านต่างๆของเราเริ่มปรากฏให้เห็นผล เราประสบความสำเร็จในด้านส่วนต่างของราคา(Slab Spread)ที่สูงขึ้นร้อยละ 36 จากความแข็งแกร่งของตลาดเหล็กแท่งในโลก ซึ่งได้แรงผลักดันจากความต้องการในตลาดอเมริกาเหนือ และภาวะวัตถุดิบล้นตลาด เรามียอดขายเหล็กแท่งแบนให้แก่บุคคลภายนอกเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 31

ธุรกิจเหล็กแผ่นรีดร้อน ถึงแม้ว่ายังคงเผชิญปัญหาสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศส่งผลให้ยอดขายลดลงร้อยละ 25 ต่ำกว่าระดับการขายปกติ แต่ในไตรมาสที่ผ่านมาเราสามารถเพิ่มยอดขายเติบโตขึ้นร้อยละ 9 เพิ่มค่าการรีด (HRC Spread) ขึ้นร้อยละ 4 และเพิ่ม EBITDA ขึ้นร้อยละ 31

"เป้าหมายต่อไปของเราคือการบรรลุถึงปริมาณขาย 1 ล้านตันต่อไตรมาส ซึ่งจะทำให้ผลการดำเนินงานของเราดีขึ้นไปอีก มั่นใจว่าธุรกิจของกลุ่มเอสเอสไอได้ผ่านช่วงที่เลวร้ายที่สุดมาแล้ว เรายอมรับว่าการเปลี่ยนแปลงมาเป็นผู้ผลิตเหล็กครบวงจรในระดับโลกทำให้ประสบความยากลำบาก แต่เรากำลังพลิกสถานการณ์การกลับมาและมุ่งมั่นที่จะสร้างตัวเลขผลการดำเนินงานที่ดีต่อไป"นายวิน กล่าว

สำหรับแนวโน้มของธุรกิจไปข้างหน้า ยังคงมีความระมัดระวังแต่ก็มองเห็นแนวโน้มในแง่ดี แม้ว่าสถานการณ์ทางการเมืองไทยยังคงไม่แน่นอนและมีความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจจีนและสถานการณ์ในยูเครน เราเห็นตลาดเหล็กทั่วโลกปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องและตลาดวัตถุดิบที่จะล้นตลาดมากขึ้น ซึ่งหมายความว่ายอดขายธุรกิจเหล็กแผ่นรีดร้อนของเราจะทรงตัวคงอยู่ในระดับต่ำในช่วงนี้ ในขณะที่ยอดขายของธุรกิจโรงถลุงเหล็กจะเติบโต และส่วนต่างราคาโดยรวมดีขึ้น จะยังคงเดินหน้าสร้างความเป็นเลิศด้านปฏิบัติการและมุ่งเน้นการสร้างแผนต่อเนื่องของโครงการต่างๆที่จะเพิ่มมูลค่าของธุรกิจ ผ่านโครงการ AAA Projects ในขณะที่ในช่วงนี้เราเริ่มได้รับผลประโยชน์แล้วจากโครงการ AAA Projects แรก ๆ ของเราที่ได้ลงมือไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ