นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บมจ.อิชิตัน กรุ๊ป (ICHI) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า ราคาหุ้น ICHI ปรับตัวลงค่อนข้างมากในช่วงบ่ายนี้ มองว่าเป็นการขายทำกำไรของนักลงทุน หลังจากที่ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นไปค่อนข้างมากจากราคาเทรดวันแรกอยู่แถวๆ 16 บาท จากนั้นก็ไต่ขึ้นไปสูงถึง 26 บาท ขณะที่ธุรกิจของ ICHI ยังคงเดินหน้าเหมือนเดิมตามแผนงานไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง
"การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดพิจารณา...ซื้อ"เย็น เย็น"แล้วใจเย็น ๆ ผมทำธุรกิจมา 20 ปี... ให้ซื้อลงทุนระยะยาวรอปันผล ไม่ต้องรีบร้อน ให้ลงทุนอย่าเน้นเก็งกำไร"นายตัน กล่าว
ด้าน บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ขาย"หุ้น ICHI เนื่องจากราคาปัจจุบันเกินมูลค่าเหมาะสมที่ 19.80 บาท อ้างอิงวิธี PE forward เฉลี่ยที่ 21.7X หรือ PEG 0.98X อย่างไรก็ดี ได้ปรับประมาณการผลประกอบการใหม่ โดยคาดว่ารายได้เติบโต 13% ใน 3 ปีนี้ แต่ปรับกำไรสุทธิลดลงจากเดิม 17% ในปีนี้และ 19% ปีหน้า เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการส่งเสริมการขายที่เพิ่มขึ้นจากเดิม 14% เป็น 18% ใน 1Q57
ทั้งนี้ คาดกำไรสุทธิเติบโต 3 ปี เฉลี่ย 22% ในปี 57F อยู่ที่ 1,185 ล้านบาท และปี 58F อยู่ที่ 1,433 ล้านบาท สำหรับอัตรากำไรขั้นต้นจะเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 35%-37% ในปี 57F และ 58F ตามลำดับ เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 32% เนื่องจากบริษัทลดสัดส่วนจ้างผลิต OEM ลงจาก 25% ในปีก่อนให้อยู่ต่ำกว่า 10% ในปีนี้และ 5% ในปีหน้า ซึ่งจะส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น สำหรับกำไรสุทธิปีนี้คาดอยู่ที่ 15% ในปีนี้ และ 17% ในปีหน้า
ส่วน บล.กรุงศรี ปรับลดคำแนะนำหุ้น ICHI ลงจาก"ซื้อ"เป็น"ขาย"เนื่องจากราคาหุ้นเต็มมูลค่า แม้ผลประกอบการยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องในปี 57-58 จากการประหยัดขนาดจากการขยายกำลังการผลิตและลดสัดส่วนสินค้าจ้างผลิต แต่ราคาหุ้นปรับขึ้นเหนือราคา IPO เกือบเท่าตัวภายในเวลาไม่ถึงเดือน สะท้อนข่าวการเข้าซื้อตราผลิตภัณฑ์ "ไบเล่"พร้อมสูตรการผลิตมากเกินไปโดยที่ยังไม่มีความชัดเจนถึงผลตอบแทนที่คาดจะได้รับ และยังต้องใช้ระยะเวลาก่อสร้างโรงงานถึง 14 เดือน
ราคาหุ้นปัจจุบัน(33.7xP/E'57)ค่อนข้างแพงเทียบกับค่าเฉลี่ยของกลุ่ม และเต็มมูลค่าจากมูลค่าพื้นฐานค่อนข้างมาก นอกจากนี้แนวโน้มยอดขาย 1Q57 ที่ลดลง YoY ยังเป็นสัญญาณเตือนถึงการชะลอตัวของกำลังซื้อในอุตสาหกรรมและเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อประมาณการในระยะต่อไป