"ทิสโก้ เวลธ์(TISCO Wealth)มีมุมมองต่อแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ในช่วงที่เหลือไปจนถึงสิ้นปีนี้ว่าจะยังคงทรงตัวอยู่ที่ระดับ 2.00% ขณะที่แนวโน้มผลตอบแทนจากการลงทุนในเงินฝากจะทรงตัวในระดับที่ต่ำเช่นเดียวกัน ดังนั้น การลงทุนในเงินฝากอาจไม่ใช่คำตอบที่จะช่วยสร้างผลตอบแทนในระดับที่น่าพอใจได้ในขณะนี้"นายสาห์รัช กล่าว
กองทุนดังกล่าวเป็นกองทุนเปิดแบบ“คอมเพล็กซ์ รีเทิร์น"โดยมีนโยบายการลงทุนในเงินฝากหรือตราสารหนี้คุณภาพดีที่มีการจัดอันดับเครดิตอยู่ในระดับที่ลงทุนได้ และมีอายุประมาณ 2 ปี เป็นส่วนใหญ่ ขณะที่อีกส่วนหนึ่งจะลงทุนในออปชั่นที่อ้างอิงผลตอบแทนดัชนีตลาดหุ้นที่น่าสนใจลงทุน ซึ่งในกองทุนนี้จะลงทุนในตลาดหุ้นเอเชียเหนือ ประกอบด้วย จีน ฮ่องกง ไต้หวัน และเกาหลีใต้ เนื่องจากตลาดดังกล่าวมีเศรษฐกิจที่เติบโตแข็งแกร่ง และตลาดหุ้นมีแนวโน้มการขยายตัวที่ดี ซึ่งจะเป็นส่วนที่สร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่มให้กับผู้ลงทุน
ดังนั้น หากใน 2 ปีจากนี้ไปดัชนีดังกล่าวปรับตัวสูงขึ้นจากระดับที่กองทุนเริ่มลงทุนผู้ลงทุนก็จะได้ผลตอบแทนแปรผันไปตามการเพิ่มขึ้นของดัชนีแบบไม่จำกัด แต่หากในกรณีเลวร้ายสุดคือดัชนีปรับตัวลดลงตลอดกองทุนก็จะไม่ได้ผลตอบแทนอะไรแต่ยังสามารถคืนเงินต้นได้จากเงินลงทุนส่วนแรก
“กองทุนเปิดแบบคอมเพล็กซ์ รีเทิร์นของทิสโก้ ที่เราได้เปิดเสนอขายในช่วงที่ผ่านมา ถือว่าได้รับการตอบรับที่ดีมาก เนื่องจากเราได้นำเสนอกองทุนนี้เข้ามาเป็นทางเลือกในยุคที่อัตราดอกเบี้ยยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ ผู้ลงทุนมองหาการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนในระดับที่ดี แต่ไม่อยากรับความเสี่ยงมาก ซึ่งกองทุนนี้สามารถตอบโจทย์ได้ทั้งหมด และจากแนวโน้มที่เราประเมินว่าจากนี้จนถึงสิ้นปี อัตราดอกเบี้ยจะยังคงทรงตัวในระดับนี้ต่อไป ทำให้ผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อยนั้นจะมีทางเลือกการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนดีค่อนข้างจำกัด"