IRCP คาดกำไร-รายได้ปี 57 โต 30% ปรับกลยุทธรับมือความเสี่ยงการเมือง-งานภาครัฐ

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday May 19, 2014 13:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกังวาล กุศลธรรมรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อินเตอร์เนชั่นแนล รีเสริช คอร์ปอเรชั่น(IRCP) เปิดเผยว่า บริษัทคงเป้ารายได้และกำไรเติบโต 30% ในปีนี้ พร้อมปรับกลยุทธเพื่อรองรับสถานการณ์การเมืองและเศรษฐกิจที่ไม่นิ่ง ลดสัดส่วนงานภาครัฐหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากงบประมาณล่าช้า ขณะที่ชะลอขาย set top box รอความชัดเจนคูปองกสทช.ซึ่งอาจปรับแผนมาเป็นการจับมือกับพันธมิตร และเลื่อนแผนย้ายเข้าตลาด SET รอจังหวะเหมาะสม

บริษัทคาดว่ารายได้และกำไรปี 57 จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 30% จากปีก่อนมีรายได้ 1,400 ล้านบาท และจะพยายามรักษาระดับอัตรากำไรสุทธิไม่ให้ต่ำกว่าปีก่อนที่อยู่ในระดับ 5% ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ(backlog)แล้วราว 400-500 ล้านบาท และยังเตรียมเข้าประมูลงานอีกหลายโครงการ มูลค่ารวมกว่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นงานประเภทงานบริการด้านการวางระบบโครงข่าย IT ของภาครัฐวิสาหกิจและเอกชน โดยคาดหวังว่าจะชนะประมูลราว 50%ของมูลค่าทั้งหมด

ขณะที่ไตรมาส 2/57 บริษัทคาดว่ารายได้จะเติบโต 30% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกที่ผ่านมา โดยไตรมาส 1/57 มีรายได้อยู่ที่ 292 ล้านบาท จากการรับรู้รายได้เข้ามาหลังจากที่บริษัททยอยส่งมอบงานวางระบบโครงข่ายด้าน IT ให้กับสถานีโทรทัศน์ ThaiPBS มูลค่างาน 230 ล้านบาท และอยู่ระหว่างรอเข้าประมูลงานวางระบบเพิ่มให้กับ บมจ.อสมท (MCOT) และกรมประชาสัมพันธ์

นอกจากนั้น บริษัทยังอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรในโครงการใหญ่อีก 3 โครงการ โดยเป็นงานประเภท NON-PROJECTS การให้บริการที่เกี่ยวข้องกับระบบโครงข่าย 4G คาดว่าจะได้ข้อสรุปในปลายไตรมาส 2/57 หรือต้นไตรมาส 3/57 ซึ่งจะทำให้บริษัทมีรายได้ประจำเข้ามาต่อเนื่องไปอีก 3 ปี และจะมีกำไรเข้ามาไม่ต่ำกว่า 20 ล้านต่อเดือน

พร้อมกันนั้น บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาต่อรองเรื่องราคากับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี(บางมด)มูลค่างาน 700 ล้านบาท คาดไตรมาส 3/57 สามารถเซ็นสัญญาได้ ซึ่งก็จะทำให้บริษัทมีรายได้เข้ามาเพิ่ม

นายกังวาล กล่าวว่า บริษัทจะมีการปรับสัดส่วนรายได้ภาครัฐลงให้เหลือ 50% จากปัจจุบัน 65% เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่อาจจะมีขึ้นจากการเบิกจ่ายงบประมาณล่าช้า ซึ่งเป็นผลกระทบจากปัญหาการเมืองที่ยืดเยื้อ ขณะเดียวกันบริษัทก็ได้มีการบริหารความเสี่ยงไว้แล้ว โดยมีการเจรจากับสถาบันการเงินเพื่อปล่อยสภาพคล่อง ขณะที่เร่งพัฒนาบุคคลากรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยในปีนี้วางงบลงลงทุนการพัฒนาบุคคลากรเพื่อติดต่อประสานงานต่างๆไว้ 10 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน บริษัทได้ตัดสินใจเลื่อนการเปิดขายกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอล(Set Top Box) หลังจากทางคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.)ยังไม่สามารถสรุปการแจกคูปองอุดหนุนให้กับประชาชนได้ในขณะนี้ ดังนั้น บริษัทก็จะรอให้เรื่องดังกล่าวมีความชัดเจนก่อน แต่บริษัทก็อาจปรับแผนมาเป็นการหาพันธมิตรร่วมทุนแทนเพื่อลดความเสี่ยงลง

ส่วนแผนการย้ายจากตลาดหลักทรัพย์ mai เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เพื่อเข้ามาระดมทุนในไตรมาส 2/57 นี้ บริษัทเลื่อนออกไปก่อนจนกว่าจะถึงเวลาที่เหมาะสม เนื่องด้วยสถานการณ์ทางการเมืองยังคงไม่ชัดเจนและมีความเสี่ยงทางภาวะตลาดสูง รวมถึงนักลงทุนยังคงชะลอการลงทุนอยู่ในช่วงนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ