อนึ่ง รายได้และกำไรในไตรมาส 1/57 ลดลงจากไตรมาส 4/56 เท่ากับ 4% และ 56% ตามลำดับ
ในไตรมาส 2/57 บริษัทมีปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้นมากกว่าไตรมาส 1/57 ประมาณ 10% และราคาโอเลฟินส์ส์ปรับตัวดีขึ้น อีกทั้งราคาน้ำมันดิบในไตรมาสนี้คาดว่าจะทรงตัวที่ 100-110 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล โดยราคาเบนซินดีขึ้นจากเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัว ยุโรปก็เริ่มมีข่าวดี จีนแม้จะชะลอความร้อนแรงเศรษฐกิจแต่ก็ยังเติบโต ดังนั้น เชื่อว่าราคาน้ำมันจะไม่ลงไปกว่านี้ แต่ราคาก็จะไม่หวือหวา
"ไตรมาส 1 ที่ผ่านมาน้อยกว่าที่คาดไว้ เพราะราคาอะโรเมติกส์ลง แต่ไตรมาส 2 นี้น่าจะดีขึ้น ราคาโอเลฟินส์ ผลักดันให้งบในไตรมาส 2 นี้ดีขึ้น คาดว่า Market GIM จะได้ 8 เหรียญฯ/บาร์เรล ฉะนั้นกำไรในไตรมาส 2 จะดีกว่าไตรมาสแรก" นายสุกฤต กล่าว
นายสุกฤต ยังกล่าวว่า ทั้งปี 57 บริษัทยังคงเป้า Market GIM ที่ระดับ 8.50 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล(ไม่รวมสต็อกน้ำมัน)จากปีก่อนอยู่ที่ 6.96 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล(ไม่รวมสต็อกน้ำมัน)โดยจะมาจากโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน(DELTA) ที่มี GIM เพิ่มขึ้นมา 1.50 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ขณะเดียวกันราคาอะโรเมติกส์ที่ปรับตัวลงในไตรมาส 1/57 คาดว่าราคาไม่น่าจะปรับตัวลงมาแล้ว
อย่างไรก็ตาม สัดส่วน EBITDA ของอะโรเมติกส์ไม่มาก บริษัทจะรับผลกระทบไม่มาก โดยกำลังการผลิตรวม 3.6 แสนตัน คือ มิกซ์ไซลีน(MX) 1.2 แสนตัน โทลูอีน 1.3 แสนตัน และเบนซีน 1.1 แสนตัน ขณะที่ราคาโอเลฟินส์ดีขึ้น และมีสัดส่วน EBITDA อยู่มาก โดยโอเลฟินส์มีกำลังการผลิตรวม 8 แสนตัน ที่มาจากเอทิลีน 3.2 แสนตัน, โพรพิลีน 4.2 แสนตัน และ Butadene 5.3 หมื่นตัน
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการทำแผนธุรกิจ(Strategic Core Business)ระยะเวลา 5 ปี คาดว่าจะสรุปแผนได้ในไตรมาส 3/57 ส่วนความร่วมมือกับบมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล(PTTGC) ได้ชะลอไปก่อน เพราะเศรษฐกิจในประเทศและภูมิภาคชะลอตัวจึงไม่ได้เร่งรีบ และ PTTGC ก็อยู่ระหว่างหารือพันธมิตรอินโดนีเซียในการดำเนินโครงการปิโตรคอมเพล็กซ์