หลังประเมินเศรษฐกิจในประเทศยังคงอ่อนแอจากตัวเลข GDP ในไตรมาสแรก ปีนี้ที่ลดลง 0.6% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว มาจากการบริโภคภาคเอกชนลดลง 3.0% การลงทุนภาคเอกชนลดลง 7.3% การลงทุนภาครัฐลดตัวลงมากจากรัฐวิสาหกิจที่มีการลงทุนลดลง 40% และรายรับจากนักท่องเที่ยวลดลงถึง 4.2% จากผลกระทบจากมาตรการควบคุมทัวร์ศูนย์เหรียญของรัฐบาลจีน และปัญหาความไม่สงบทางการเมืองในประเทศไทย โดยปัญหาการเมืองยังคงมีความรุนแรงอย่างต่อเนื่องจนนำไปสู่การประกาศใช้กฎอัยการศึกของกองทัพบกเพื่อดูแลความสงบเรียบร้อย ซึ่งทางบลจ.ฟินันซ่าได้มีการปรับลดประมาณการ GDP ของปี 57 ลงอยู่ที่ 1.8%-2.1% จากเดิม 2.4%
กองทุนดังกล่าวเป็นกองทุนที่โรลโอเวอร์มาจากการขายกองทุนก่อนหน้านี้ เป็นกองทุน Specific fund โดยกองทุนจะพิจารณาลงทุนใน ตราสารแห่งหนี้ ตราสารทางการเงินและ/หรือ เงินฝากของภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ อาทิ เงินฝากธนาคารต่างประเทศสกุลเงิน USD, CNY, HKD, EUR, JPY กับธนาคาร BOC (Macau), Standard Chartered Bank (Hong Kong), ธนาคาร CIMB Niaga (Indonesia) หรือเงินฝากสกุลเงิน AED ธนาคาร Abu Dhabi Commercial Bank, UAE (F1) , ธนาคาร Union National Bank, UAE(P-1) , ตั๋วเงินหรือเงินฝากธนาคารพาณิชย์ในประเทศ, ตั๋วแลกเงิน บมจ.ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) (BBB), ตั๋วแลกเงิน บมจ.เอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง(BBB+), ตั๋วแลกเงิน บมจ.ราชธานีลิสซิ่ง (BBB+), บจ.บีเอสแอล ลีสซิ่ง(BBB) หรือตราสารหนี้ภาคเอกชนที่มีอันดับความน่าเชื่อถือตั้งแต่ BBB ขึ้นไป, ตั๋วเงินคลัง หรือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นต้น