สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยวันนี้มีมูลค่าการซื้อขายรวม 98,414 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุด คือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 75,545 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 76.8% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้ ลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 15,289 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 15.5% ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 2,384 ล้านบาท หรือคิดเป็น 2.4% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด
สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB155A, LB196A และ LB176A (รุ่นอายุ 1.0 ปี, 5.1 ปี และ 3.1 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 9,294 ล้านบาท หรือคิดเป็น 61% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. หุ้นกู้ บริษัท ราชธานีลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน)(THANI17OA)มูลค่า 435.0 ล้านบาท
2. หุ้นกู้มีประกันของบริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง(ประเทศไทย) จำกัด(TLT155A) มูลค่า 233.7 ล้านบาท
3. หุ้นกู้ของบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน)(IRPC175C) มูลค่า 230.5 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 899.2 ล้านบาท หรือคิดเป็น 37.7% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 12,372 ล้านบาท
2. กลุ่มสถาบันการเงินที่ไม่มีใบอนุญาตเพื่อค้าตราสารหนี้ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 4,360 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดขายสุทธิ เท่ากับ -1,974 ล้านบาท ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.03% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 2.97% ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 0.01%
Yield Curve ปรับเพิ่มขึ้นหลังเปิดตลาด ประมาณ 4-5 bps. ก่อนปรับลดลงมา จากแรงซื้อของนักลงทุนสถาบันในประเทศ หลังจากมีการประกาศใช้ กฎอัยการศึกทั่วประเทศตั้งแต่เวลา 03.00 น.ของวันนี้ เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อย สำหรับนักลงทุนต่างชาติ มียอดขายสุทธิ (NET SELL) เท่ากับ 1,974 ล้านบาท