บล.ทรีนีตี้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า บมจ.เอสพีซีจี(SPCG)เตรียมจ่ายปันผล40% ของผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปีนี้ ซึ่งจะนับเป็นการจ่ายปันผลครั้งแรกนับแต่ก่อตั้งบริษัท โดยภายใน 2Q57 บริษัทจะขายไฟฟ้าเข้าสู่ระบบครบทั้ง 36 โครงการ คิดเป็นกำลังการผลิต 260 MW จากปัจจุบันที่เริ่มดำเนินการแล้ว 33 โครงการ
นอกจากนี้ ยังตั้งงบลงทุนอีก 1 พันล้านบาท เพื่อขยายการลงทุนโซลาร์ฟาร์มต่างประเทศ เบื้องต้นประเมิน เงินปันผลในงวดปีแรกที่ 0.23-0.25 บาทต่อหุ้น (อิง คาดการณ์กำไร 2Q57 ที่ 270 ล้านบาท และ Dividend payout 40%) คิดเป็น Dividend yield ราว 1%
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า ราคาหุ้นที่ปรับตัวแรงเมื่อวานนี้ ได้ priced in ประเด็นนี้ไปแล้ว ปรับลดคำแนะนำจากเดิม "ซื้อ" เป็น "ถือ" ที่ราคาเป้าหมาย 23.40 บาท
ด้านบล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย)ระบุว่า SPCG เล็งจ่ายปันผลครั้งแรกในงวดครึ่งหลังปี 57 โดยบริษัทมีนโยบายจ่ายไม่น้อยกว่า 40% ผู้บริหารประเมินว่ากำไรสุทธิปี 57 จะเติบโตก้าวกระโดด ซึ่งมาจากรายได้ที่ขยายตัวราว 40% เป็น 3.5 พันล้านบาท ส่วนปี 57 เพิ่มขึ้นต่อเป็น 4.5-5 พันล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากการรับรู้รายโครงการโซลาร์ฟาร์มเพิ่มขึ้น โดยในไตรมาส 2/57 โครงการโซลาร์ฟาร์ม จะดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ครบทั้ง 36 โครงการ จากปัจจุบันที่ COD แล้ว 33 โครงการ สำหรับปี 58 จะรับรู้รายได้จาก 36 โครงการเต็มปี ส่วนแผนระยะยาว บริษัทกำลังพิจารณาขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีก โดยใน 5 ปีข้างหน้าคาดว่าจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มเป็น 500 เมกกะวัตต์ จากปัจจุบัน 260 เมกกะวัตต์ (จาก 36 โครงการ)
ในด้านการเงิน ทางบริษัทจะชำระหนี้เงินกู้ส่วนทุน 3.3 พันล้านบาทภายในปีนี้ (ปัจจุบันได้มีการชำระไปบ้างแล้วประมาณ 800 ล้านบาท) ซึ่งเม็ดเงินมาจากการออกหุ้นกู้วงเงิน 4 พันล้านบาท
นักวิเคราะห์ใน SAA Consensus คาดการณ์ว่ากำไรสุทธิปี 57-58 ของ SPCG จะเติบโต 208% และ 35% ตามลำดับ และให้ราคาเป้าหมายเฉลี่ยอยู่ที่ 24.17 บาท เทียบเท่ากับ P/E ปี 57 ที่ 14.8 เท่า