กลุ่มทรู รายงานผลกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติ (NIOGO) ไม่รวมภาษีเงินได้รอตัดบัญชี จำนวนทั้งสิ้น 4.3 พันล้านบาท ในไตรมาส 1 ปี 2557 ซึ่งปรับตัวดีขึ้นมาก ตามการเติบโตของ EBITDA รวมถึงผลกระทบในเชิงบวกจากการชำระคืนหนี้สินล่วงหน้าในปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้ภาระดอกเบี้ยของกลุ่มทรูลดลงอย่างต่อเนื่อง และการรับรู้มูลค่าเงินลงทุนในกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ทรูโกรท (TRUEIF)
โดย ที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ ที่ได้รับการแต่งตั้งจากบลจ.ไทยพาณิชย์ (SCBAM) ได้มีการวัดมูลค่าเงินลงทุนของกองทุน TRUEIF เป็นรายรอบระยะเวลาบัญชี ด้วยราคายุติธรรม (Fair Value) ตามมาตรฐานบัญชี ซึ่งพบว่าเงินลงทุนของกองทุนมีมูลค่าสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา กลุ่มทรู ซึ่งถือหน่วยลงทุนกว่าร้อยละ 33 จึงรับรู้มูลค่าเพิ่มและผลการดำเนินงานของกองทุนเป็นจำนวนประมาณ 5 พันล้านบาท ส่งผลให้กลุ่มทรู มีผลกำไรสุทธิจำนวน 3.8 พันล้านบาท ในไตรมาส 1 ปี 2557
"เป็นที่น่ายินดีที่ผลประกอบการในไตรมาส 1 ของกลุ่มทรู สามารถปรับเป็นกำไรได้อย่างชัดเจน ทั้งนี้ การสานต่อยุทธศาสตร์คอนเวอร์เจนซ์ พร้อมทั้งปรับกลยุทธ์การตลาดให้เข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น และการบริหารค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ที่ได้เริ่มมาตั้งแต่ต้นปีนั้น มีความคืบหน้าเป็นอย่างมาก โดยการให้ความสำคัญกับการควบคุมค่าใช้จ่าย ทำให้ในปี 2557 นี้ บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าจะสามารถบรรลุเป้า EBITDA ที่ตั้งไว้ และจะสามารถรายงานผลกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติ (NIOGO) ไม่รวมค่าเสื่อมราคาสินทรัพย์ 2G ซึ่งจะตัดค่าเสื่อมหมดภายในเดือนกันยายน นี้ได้ "นายศุภชัย กล่าว
ผลประกอบการของกลุ่มทรูโมบายล์ ปรับตัวดีขึ้นจากการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของธุรกิจ 3G จนสามารถถึงจุดคุ้มทุนแล้วในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลจากความสำเร็จในการดึงดูดลูกค้าที่มีการใช้งานสูง และการโอนย้ายลูกค้าจากธุรกิจ 2G ได้อย่างรวดเร็ว โดยกลุ่มทรูโมบายล์ มีจำนวนผู้ใช้บริการรวมทั้งสิ้น 23.1 ล้านราย ณ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2557 ซึ่ง ในไตรมาส 2 นี้ บริษัทฯ ยังคงมุ่งต่อยอดความสำเร็จนี้ ด้วยการนำเสนอแคมเปญ “เปลี่ยนเลย... 4G Advance Forward จากทรูมูฟ เอช" รวมทั้งการนำเสนอดีไวซ์ 3G ในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้น อาทิ ทรู ซูเปอร์ 1 และทรู ซูเปอร์ อัลตร้า 1 เพื่อเพิ่มประสบการณ์การใช้งานให้กับลูกค้า และขยายฐานผู้ใช้บริการทั้งบนเครือข่าย 4G และ 3G ของทรูมูฟ เอช ที่ครอบคลุมที่สุดทั่วประเทศ ซึ่งแคมเปญเหล่านี้ได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี
ทรูออนไลน์ ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องในการนำเสนอแพ็กเกจคอนเวอร์เจนซ์ที่เพิ่มความคุ้มค่าให้แก่ลูกค้าจากการรวมบริการ ULTRA hi-speed Internet กับบริการอื่นๆ ภายในกลุ่มทรู ร่วมกับการทำการตลาดแบบปรับให้เข้ากับแต่ละพื้นที่ พร้อมกับการขยายบริการบรอดแบนด์ อินเทอร์เน็ตไปยังพื้นที่ใหม่ๆ ซึ่งครอบคลุมแล้วกว่า 4.4 ล้านครัวเรือน ใน 66 จังหวัด ส่งผลให้ทรูออนไลน์มีฐานผู้ใช้บริการบรอดแบนด์เพิ่มขึ้นเป็น 1.9 ล้านราย ณ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2557
ในขณะที่ ทรูวิชั่นส์ ยังคงมุ่งเพิ่มประสบการณ์การรับชมให้กับลูกค้า ด้วยการสรรหาคอนเทนต์คุณภาพทั้งในและต่างประเทศมาเพิ่มเติมอย่างสม่ำเสมอ โดยทรูวิชั่นส์มีความพร้อมอย่างเต็มที่สำหรับการต่อยอดธุรกิจหลังได้รับใบอนุญาตให้บริการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอล ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นโอกาสสำคัญที่จะผลักดันการเติบโตของรายได้ค่าโฆษณา และเพิ่มโอกาสในการทำการตลาดคอนเทนต์ของทรูวิชั่นส์ผ่านฐานผู้ชมขนาดใหญ่ทั่วประเทศอีกด้วย
นายนพปฎล เดชอุดม หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มด้านการเงิน TRUE กล่าวว่า ผลประกอบการของกลุ่มทรูในไตรมาส 1 ปี 2557 ปรับตัวดีขึ้นมาก ซึ่งเป็นผลจากความทุ่มเทของพนักงานในทุกหน่วยงาน ที่ร่วมกันสร้างความแข็งแกร่งด้านวินัยทางการเงินให้กับบริษัท โดยกลุ่มทรู จะเดินหน้าควบคุมค่าใช้จ่ายและลดภาระหนี้สินอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับสถานภาพทางการเงินของกลุ่ม อีกทั้ง การลงทุนใน TRUEIF ของบริษัทฯ ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จะสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนให้แก่กลุ่มทรู