สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยวันนี้มีมูลค่าการซื้อขายรวม 73,720 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุด คือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 39,789 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 54.0% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้ ลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 30,546 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 41.4% ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 1,431 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1.9% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด
สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB196A, LB236A และ LB16NA (รุ่นอายุ 5.1 ปี, 9.1 ปี และ 2.5 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 24,440 ล้านบาท หรือคิดเป็น 80% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. หุ้นกู้บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) (CPALL23OB) มูลค่า 417.9 ล้านบาท
2. หุ้นกู้บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) (CPALL243B) มูลค่า 153.0 ล้านบาท
3. หุ้นกู้ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) (THAI215B) มูลค่า 129.8 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 700.7 ล้านบาท หรือคิดเป็น 48.9% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 2,377 ล้านบาท
2. กลุ่มบริษัทจดทะเบียนในประเทศ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 579 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 3,464 ล้านบาท
ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.03% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 3.03% ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 0.03%
Yield Curve ปรับเพิ่มขึ้น ในพันธบัตรรุ่นอายุ 5-10 ปี ประมาณ 1-4 bps. โดยช่วงเช้า Yield ปรับเพิ่มขึ้น ก่อนที่ ธปท.จะเข้าซื้อพันธบัตร รุ่นอายุ 5,7 และ 10 ปี ทำให้ Yield ปรับลดลงในช่วงบ่าย สำหรับนักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิ (NET BUY) เท่ากับ 3,464 ล้านบาท