(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าปรับลงหลังคสช.คุมอำนาจปกครอง-หวั่นเจอแรงขายจากต่างชาติ

อย่างไรก็ดี นักลงทุนในประเทศซึ่งเท่าที่ดูมีความคาดหวังที่จะมีรัฐบาลขึ้นมาแล้ว ดังนั้นจึงมีโอกาสที่จะเข้ามาเล่นเก็งกำไร โดยหากตลาดฯปรับตัวลงมาลึกก็เชื่อว่านักลงทุนในประเทศ โดยเฉพาะนักลงทุนรายสถาบันจะอัดซื้อเข้าไป

ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนบวกเล็กน้อย โดยยังไม่มีปัจจัยอะไรเป็นพิเศษ

พร้อมให้แนวรับ 1,377 จุด ส่วนแนวต้าน 1,400 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

• ตลาดหุ้นนิวยอร์ควานนี้(22 พ.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,543.08 จุด เพิ่มขึ้น 10.02 จุด (+0.06%), ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1,892.49 จุด เพิ่มขึ้น 4.46 จุด(+0.24%),ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 4,154.34 จุด เพิ่มขึ้น 22.80 จุด(+0.55%)
• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 73.31 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 56.69 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ ลดลง 8.84 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 2.50 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 0.65 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,878.39 จุด เพิ่มขึ้น 3.27 จุด,ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 1.18 จุด
• ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(22 พ.ค.) ที่ 1,405.21 จุด เพิ่มขึ้น 2.29 จุด(+0.61%)
• นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,914.62 ล้านบาท เมื่อวันที่ 22 พ.ค.57
• ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(22 พ.ค.)ที่ 103.74 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 33 เซนต์
• ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(22 พ.ค.)ที่ 5.55 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
• เงินบาทเปิด 32.53/55 คาดแนวโน้มผันผวน เกาะติดสถานการณ์การเมือง
• "ประยุทธ์" นำผู้บัญชาการเหล่าทัพทุกเหล่าทัพแถลงยึดอำนาจการปกครองประเทศ ตั้งคณะกรรมการรักษาความสงบแห่งชาติคุมเบ็ดเสร็จ หลังผลประชุม 7 ฝ่ายคลี่วิกฤติการเมืองวันที่ 2 เหลวซ้ำ ฝ่ายการเมืองไม่มีใครยอมเสียสละ เดินหน้าใช้มาตรการทางทหาร ประกาศเคอร์ฟิว 4 ทุ่มถึงตี 5 เรียกอดีตรัฐมนตรี 18 คนเข้ารายงานตัว พร้อมส่งกำลังเข้าเคลียร์ม็อบเสื้อแดงที่ถนนอักษะ แนะจับตาไม่ฉีกรัฐธรรมนูญ แค่หยุดใช้ชั่วคราว ให้คงวุฒิสภา-องค์กรอิสระไว้ เปิดทางเลือกนายกฯใหม่ หวังต่างชาติให้การยอมรับมากขึ้น
• "จรัมพร"ระบุตลาดหลักทรัพย์ ยังเปิดดำเนินการปกติ ยันมีมาตรการรองรับพร้อมในกรณีหุ้นปรับลงแตะ 10% ขณะที่นายกสมาคมโบรกเกอร์เชื่อมีแรงขายกดหุ้นร่วงแน่ แต่คงไม่ต้องงัดเซอร์กิต เบรคเกอร์ ด้านนักวิเคราะห์ ระบุต่างชาติ ดักขายหุ้นแบงก์ก่อนปิดตลาด ส่วนบาทร่วง หลังทหารยึดอำนาจ ส่วนแนวโน้มค่าบาทในประเทศวันนี้ คาดอยู่ในทิศทางอ่อนค่าต่อ แต่มีแนวโน้มรีบาวด์หากนักลงทุนได้วิเคราะห์ข้อมูลอย่างรอบด้าน
• กองทุนฟื้นฟูฯ เผยรายงานการบริหารหนี้ล่าสุด ณ สิ้นเดือน เม.ย. 57 สามารถเรียกเก็บเงินนำส่งแบงก์ชดใช้หนี้ในส่วนของดอกเบี้ย 2,609.73 ล้านบาท และ ธปท.โอนสินทรัพย์คงเหลือในบัญชีผลประโยชน์ฯ อานิสงส์จากเงินบาทอ่อนค่า ส่งผลให้ชำระหนี้เงินต้น FIDF3 ได้ 782.67 ล้านบาท ทำให้สรุปผลชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยทั้งสิ้น 1.11 แสนล้านบาท ในช่วง 2 ปี 4 เดือน
• ทูตพาณิชย์-เอกชนยอมรับส่งออกหลุดเป้า เหตุการเมืองยืดเยื้อไม่มีรัฐบาลบริหารประเทศ คาดไตรมาส 3 จะชัดเจนว่าจะลดเหลือเท่าไหร่ ชี้ปัจจัยนอกเอื้อแต่เหตุในประเทศเป็นตัวฉุด เผยเหตุการณ์ขณะนี้ยังไม่กระทบส่งออก แต่กระทบงบปี'58 ทำเสียโอกาสกระตุ้นการขาย

*หุ้นเด่นวันนี้

• CHG(เคเคเทรด)"ซื้อเก็งกำไร" เทียบกับสถานการณ์ในปี 2549 พบว่าราคาหุ้นในกลุ่มโรงพยาบาลโดยเฉลี่ย Outperform ตลาดหุ้นไทยทั้งในระยะ 1 วันหลังเหตุการณ์ที่ปรับตัวขึ้นเฉลี่ย 0.14% เทียบกับ SET ที่ปรับตัวลง 1.4% และปรับตัวขึ้น 1.4% หลังเหตุการณ์ 1 สัปดาห์ เทียบกับ SET ที่ปรับตัวลง 1.4% โดยที่เรามองว่าสถานการณ์ปัจจุบันหุ้น CHG มีความน่าสนใจมากที่สุด เพราะนอกจากจะได้รับผลกระทบน้อยมากกรณีผู้ป่วยต่างชาติชะลอการเข้าไทยแล้ว โดยในทางเทคนิคมีแนวรับ และจุด Cut Loss ที่ 11.50 บาท และแนวต้าน 14.00 บาท
• TUF(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 70 บาท ถ้าพิจารณาจากสถิติหลังการรัฐประหาร 1 สัปดาห์ ที่หุ้นในกลุ่มอาหารโดยเฉลี่ยปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางกับ SET ที่ปรับตัวลง 1.4% เราพบว่าหุ้น TUF อยู่ในกลุ่มที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากที่สุดราว 4.4% เทียบกับกลุ่มอาหารที่ปรับตัวขึ้น 3.7% ขณะที่ในเชิงพื้นฐานคาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวของผลการดำเนินงานที่ชัดเจนในปี 2557 โดยที่ผู้บริหารตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 4 พันล้านดอลลาร์ และอัตรากำไรขั้นต้นไว้ที่ 14% เป็นอย่างน้อย ซึ่งเรามองว่ามีความเป็นไปได้ ขณะที่ US Pet Nutrition คาดว่าจะจุดคุ้มทุนในช่วงกลางปี ประเมินกำไรสุทธิไว้ในปี 2557 ที่ 5.38 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 89% YoY
• DELTA(ดีบีเอส วิคเคอร์ส)"อ่อนตัวเป็นจังหวะซื้อ"ราคาพื้นฐาน 63 บาท ราคาหุ้น DELTA ที่ปรับฐานในช่วงเกือบ 2 เดือนที่ผ่านมาได้สะท้อนแนวโน้มผลประกอบการ 2Q57 ที่จะอ่อนลงเพราะลูกค้าหลัก data center กำลังอยู่ในช่วงการสะสางสต็อคเดิมสำหรับ platform เก่า (ซึ่งใช้เวลาประมาณ 4 เดือน คาดว่าจะแล้วเสร็จใน 2Q57) แล้วจะกลับมาซื้อสินค้าใหม่ใน platform ใหม่ๆ อีกครั้งตั้งแต่ 3Q57 ซึ่งจะทำให้ผลประกอบการใน 2H57 ดีขึ้น บริษัทได้รับประโยชน์จากการอ่อนค่าของเงินบาทในช่วงนี้ และรายได้อิงกับต่างประเทศ ทำให้ถูกกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจและการเมืองในประเทศจำกัด งบดุลแข็งแกร่ง ด้วยฐานะเงินสดสุทธิ ณ ปลาย 1Q57 เป็น 15.3 พันล้านบาท (12.20 บาทต่อหุ้น)