อย่างไรก็ดี มองว่าเหตุการณ์ดังกล่าว สื่อต่างชาติเช่น BBC CNN ไม่ได้ตำหนิฝ่ายทหารและทำให้สถานการณ์ดีขึ้น ถือเป็นเรื่องดีที่ยุติความปั่นป่วนจากการชุมนุมของมวลชน 2 กลุ่ม และจะมีความชัดเจนรัฐบาลใหม่ที่แต่งตั้งจากทหาร
นายรณชิต มอว่าเรื่องนี้เป็นข่าวดี และคาดว่าในครึ่งปีหลังน่าจะมีรัฐบาลใหม่ ซึ่งหากได้รับการยอมรับจากต่างประเทศและคนในประเทศ ไม่มีกระแสต่อต้าน จะทำให้การเมืองไทยมีความชัดเจน และเชื่อว่า การทำรัฐประหารครั้งนี้รับผลกระทบน้อยกว่าในปี 49 และคาดหวังว่าธุรกิจท่องเที่ยวจะฟื้นตัวได้เร็วหลังมีรัฐบาลใหม่เช่นเดียวเมื่อปี 49
ดังนั้นบริษัทจึงยังคงเป้าหมายรายได้ปีนี้ ที่ระดับ 1.9 หมื่นล้านบาท เพิ่มจากปีก่อนที่มี 1.7 หมื่นล้านบาท โดยในไตรมาส 1/57 รายได้ไม่ได้ต่ำกว่าปีที่แล้ว โดยนักท่องเที่ยวยังหวั่นกลัวในพื้นที่ภาคเหนือ และอีสาน รวมกรุงเทพ แต่ทางใต้มีความปลอดภัยมากกว่า และ CENTEL มีที่พักในภาคใต้ตามชายทะเลมากกว่าก็น่าจะได้เปรียบ
"ไตรมาส 2 เป็น low season อัตราเข้าพักต่ำอยู่แล้ว แต่เป็นข่าวดี ผมมองในแง่กลับกัน ...ครึ่งปีหลังขึ้นอยู่กับรัฐบาลใหม่ที่เข้ามาถ้าเป็นที่ยอมรับของต่างชาติและคนในประเทศ ถ้าไม่มีกระแสต่อต่าน น่าจะดีมาก ...เพราะการท่องเที่ยวเวลากลับมาจะกลับมาแรง แม้ว่าในช่วง 3 เดือนแรก การท่องเที่ยวตกลงไป 6% และในเดือนเม.ย. ลดลงไป5%"นายรณชิต กล่าว
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทในเดือน พ.ค.นี้ได้อนุมัติการลงทุนโรงแรม COSI ซึ่งเป็น Budget Hotel แห่งแรกของบริษัท ที่สมุย ใช้เงินลงทุน 300 ล้านบาท โดยมีจำนวนห้องประมาณ 200 ห้อง คาดเปิดให้บริการได้ในปี 59 ส่วนอีกแห่งที่พัทยา ต้องศึกษาเพิ่มเติมก่อนจะพิจารณาอนุมัติ ทั้งนี้การลงทุนโรงแรม Budget Hotel เป็นยุทธศาสตร์ตามที่บริษัทได้กำหนดไว้ก่อนหน้า