"ไฟร์วิคเตอร์"เล็งยื่นไฟลิ่ง มิ.ย.ขาย IPO 45 ล้านหุ้นใน Q4/57-Q1/58

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday May 26, 2014 14:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวิรัฐ สุขชัย กรรมกาผู้จัดการ บมจ. ไฟร์วิคเตอร์ เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมยื่นไฟลิ่งในการนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาด mai ในเดือนมิ.ย.นี้ และคาดว่าจะสามารถเข้าซื้อขายได้ในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ หรือ ไตรมาส 1 ในปี 58 โดยบริษัทจะนำหุ้นเพิ่มทุน 45 ล้านหุ้นเสนอขายต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) เพื่อระดมทุนขยายกิจการ ชำระคืนหนี้บางส่วนและนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน

บริษัทเพิ่งแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 57 ที่ผ่านมา มีทุนจดทเบียน 175 ล้านบาททุนชำระแล้ว 130 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ผู้ถือหุ้นใหญ่ได้แก่ นายวิรัฐ สุขชัย ถือ 38% กลุ่มตระกูลชาญณรงค์ 38% ที่เหลือถือโดยพนักงานบริษัท หลังขายหุ้นเพิ่มทุนผู้ถือหุ้นใหญ่ทั้งสองกลุ่มลดสัดส่วนการถือหุ้น แต่ก็ยังมากกว่า 50%

ทั้งนี้ ไฟร์วิคเตอร์ เป็นผู้นำเข้าและผู้แทนจำหน่ายสินค้าคุณภาพจากสหรัฐและยุโรป เกี่ยวกับอุปกรณ์สำหรับดับเพลิงด้วยน้ำ น้ำยาโฟม ก๊าซและสารเคมี พร้อมทั้งอุปกรณ์สำหรับการตรวจสอบและเตือนภัยที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน รวมทั้งระบบสุขาภิบาลและระบบปรับอากาศครบวงจร ปัจจุบันมีสินค้า 18-20 ยี่ห้อ และจะเพิ่มสินค้าแบรนด์ใหม่ เข้ามาอีก 3-4 ยี่ห้อ โดยปีนี้คาดสัญญาเป็นตัวแทนจำหน่ายได้ 2 ยี่ห้อ ซึ่งเน้นสินค้าที่มีนวัตกรรมใหม่

นายวิรัฐ คาดว่าในปีนี้รายได้และกำไรสุทธิของบริษัทน่าจะเติบโต 15% จากปีก่อนที่มีรายได้ 519 ล้านบาท กำไรสุทธิ 51 ล้านบาท ปัจจุบันมีคำสั่งซื้อในมือแล้วมากกว่า 150 ล้านบาท และเชื่อว่าจะทำได้ตามเป้าหมายแม้ว่าภาวะเศรษฐกิจปีนี้จะชะลอตัว โดยในไตรมาส 1/57 รายได้เติบโต 6-8% จากไตรมาส 1/56 และคาดว่าในไตรมาส 3 ปีนี้เศรษฐกิจโดยรวมน่าจะกลับมาดีขึ้น เพราะปัจจัยการเมืองเริ่มนิ่ง งานก่อสร้างจะกลับมา ทั้งนี้ ในช่วง 3 ปีย้อนหลัง (ปี 54-56) รายได้ของบริษัทเติบโตเฉลี่ย 15%ต่อปี

ปัจจุบัน บริษัทมีกลุ่มลูกค้าหลักได้แก่ กลุ่มผู้รับเหมา 55% ที่จะใช้ช่องทางนี้ขายตรง และกลุ่มตัวแทนจำหน่าย 30% และ ขายตรงกับผู้ใช้รวมทั้งรับติดตั้งระบบดับเพลิง ได้แก่ ปตท. ทีพีไอ เป็นต้น ซึ่งส่วนนี้มีสัดส่วน 15%

ในปีนี้บริษัทจะขยายกลุ่มงานวิศวกรรมหรือติดตั้งระบบดับเพลิงเองมากขึ้นเพราะเป็นงานที่ได้มาร์จิ้นสูงหรือได้มากกว่า 30% คาดว่าเร็วๆนี้จะได้รับงานใหม่มูลค่าราว 35 ล้านบาทและมีอีก 2 งานๆละ 20 ล้านบาท โดยปีนี้จะมีมูลค่างานจากกลุ่มนี้มากกว่า 100 ล้านบาทจากปีก่อนมีมูลค่า 80 ล้านบาท ระยะเวลาทำงาน 3-6 เดือน อย่างไรก็ตาม บริษัทจะไม่รับงานใหญ่แข่งกับลูกค้า

นายวิรัฐ กล่าวว่า ตลาดอุปกรณ์ระบบดับเพลิงมีโอกาสเติบโตอีกมาก เพราะปัจจุบันทุกคนให้ความสำคัญกับด้านความปลอดภัยมากขึ้น และกฎหมายก็บังคับเข้มงวดเรื่องการวางระบบดับเพลิงมากขึ้น ทำให้มีโอกาสเติบโตสูง แม้ว่าปีนี้อาจจะชะลอไปเพราะเรื่องการเมือง ทำให้งานก่อสร้างทั้งอาคารสูงและโรงงานชะลอออกไป

นอกจากนี้ บริษัทเห็นช่องทางขยายตลาดไปยังประเทศเพื่อนบ้าน จากปัจจุบันส่งอุปกรณ์เหล่านี้ไปขายในเวียดนาม และ กัมพูชา ซึ่งมียอดขาย 5% ของยอดขายรวมเท่านั้น แต่คาดว่าในอีก 2 ปี จะเข้าไปตั้งสำนักงานตัวแทนจำหน่าย ประเทศแรกที่จะไปคือ พม่า รองลงมา กัมพูชา ซึ่งเห็นโอกาสการเติบโตของงานก่อสร้างอีกมาก

"การนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาด mai จะช่วยทำให้ชื่อเสียงของบริษัทเป็นที่รู้จักแพร่หลายมากขึ้น ลูกค้ามั่นใจ และทำให้เรามีโอกาสขยายการขายสินค้าไปประเทศเพื่อนบ้าน" นายวิรัฐ กล่าว

ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิของงบกิจการ โดยตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทในปี 44 จนถึงปัจจุบันบริษัทมีผลกำไรต่อเนื่องมาตลอด


แท็ก โฟร์   วิค  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ