สำหรับการทำตลาดให้กับ CTH และ GMM นั้น TWZ จะนำสินค้าในกลุ่มสมาร์ทโฟน แท็บเลต และแก็ตเจ็ตต่างๆ มาร่วมจัดทำแพ็คเกจเพื่อกระตุ้นการขาย ประกอบกับกระแสของทีวีดิจิตอล ซึ่งสมาชิก CTH และ GMM จะสามารถดูทีวีดิจิตอลผ่านดาวเทียมได้ทันที ไม่ต้องรอการวางโครงข่ายภาคพื้นดิน ซึ่งกว่าจะครอบคลุมทั่วประเทศต้องใช้เวลาอีกเป็นปี ก็เป็นปัจจัยหนุนอีกประการหนึ่งที่จะช่วยให้ขายแพ็คเกจได้มากขึ้น
“จากตัวเลขผู้ที่ติดตั้งทีวีดาวเทียมและทีวีระบบบอกรับสมาชิกอื่นๆ ที่มีจำนวนรวมกว่า 17 ล้านครัวเรือน ถือเป็นกลุ่มลูกค้าที่ใหญ่มากที่เราจะสามารถขายแพ็คเกจของ CTH และ GMM โดยเราจัดแพคเกจที่มีความคุ้มค่าสำหรับผู้บริโภคอย่างมาก เพราะจ่ายเพิ่มเพียงเล็กน้อย แต่สามารถดูคอนเทนต์คุณภาพระดับโลกได้เพิ่มขึ้นอีกมากมายหลายช่อง โดยในปีนี้ TWZ ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 1 ล้านครัวเรือน คิดเป็น 6% ของจำนวนกว่า 17 ล้านครัวเรือน ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มรายได้ให้กับ TWZ ในปีนี้ได้ไม่น้อยกว่า 10% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา"นายพุทธชาติ กล่าว
นายพุทธชาติ กล่าวว่า บริษัทคาดว่ารายได้รวมเติบโต 10% จากปีก่อนที่ 4,029 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจหลักขายโทรศัพท์มือถือ 3,800 ล้านบาททรงตัวจากปี 56 ปัจจุบันยอดขายมาจากโกลโบลแบรนด์ 70% เฮาส์แบรนด์ 30% ส่วนรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 200 ล้านบาท
ขณะที่รายได้ส่วนเพิ่มจากธุรกิจใหม่เป็นตัวแทนจำหน่ายแพ็คเกจ พร้อมอุปกรณ์รับสัญญาณ หลังร่วมมือกับ CTH และ GRAMMY เข้าสู่ธุรกิจใหม่สอดรับยุคเปลี่ยนผ่านมาสู่ทีวีดิจิตอล คาดว่าจะมีรายได้จากธุรกิจใหม่ 300 กว่าล้านบาทในปีนี้ และเชื่อว่าธุรกิจนี้จะเติบโตเร็วมาก การทำตลาดให้กับ CTH และ GMM นั้น TWZ จะนำสินค้าในกลุ่มสมาร์ทโฟน แท็บเล็ตและแก็ตเจ็ตต่างๆมาร่วมจัดทำแพ็กเก็จ ประกอบกับกระแสทีวีดิจิตอลซึ่งสมาชิกทั้ง 2 ราย สามารถดูทีวีดิจิตอลผ่านดาวเทียมได้
นอกจากนี้ บริษัทยังเตรียมความพร้อมของระบบต่างๆ ที่จะรองรับการแลกคูปองทีวีดิจิตอลที่กสทช.จะแจกให้กับ 22 ล้านครัวเรือนอีกด้วย โดยบริษัทจะใช้ช่องทางขายที่มีอยู่ทั่วปท.ให้บริการในส่วนนี้ ซึ่งจะเป็นช่องทางการเพิ่มรายได้ให้ TWZ อีกทางหนึ่ง โดยเฉพาะขณะนี้ TWZ ได้ร่วมมือกับพันธมิตรคือ บมจ.โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์(HMPRO)ที่มีสาขาอยู่ทั่วประเทศเกือบ 90 สาขา ซึ่งปีนี้บริษัทเตรียมขยายสาขาใน HMPRO ราว 70 สาขาทั่วประเทศ ใช้เงินลงทุนสาขาละ 3-5 แสนบาท
สำหรับแนวโน้มรายได้ไตรมาส 2/57 คาดสูงกว่าปีไตรมาส 1/57 หลังมีการโอนรับรู้รายได้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซี่งเริ่มทยอยโอนในไตรมาสนี้ปีนี้คาดรับรู้ราว 200 กว่าล้านบาท โครงการโฮมออฟฟิส รัชดา มูลค่าโครงการ 300 ล้านบาท คาดปิดการขายได้ภายในปีนี้
"ไตรมาส 2 คาดรายได้สูงกว่าไตรมาส 1 แม้ยอดขาบโทรศัพท์มือถือจะใกล้เคียงกันราว 900 กว่าล้านบาท แต่ไตรมาสนี้จะมีการโอนอสังหาฯ ก็จะทำให้รายได้สูงกว่า ส่วนทั้งปีคาดยอดขายมือถือจะเท่าปีก่อนได้เพราะเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านจาก 2G เป็น 3G ภายใน 1-2 ปีนี้"นายพุทธชาติ กล่าว
นายพุทธชาติ กล่าวถึงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของ TWZ ว่า ในปี 59 จะมีเปิดโครงการใหม่ที่พัทยาซื้อที่ดินแล้วผ่านสิ่งแวดล้อมแล้วเป็นคอนโดมิเนียม มูลค่าโครงการ 500 ล้านบาท และปี 58 จะมีโครงการโฮมออฟฟิศแถวรัชดาอีก 1 โครงการ มูลค่าโครงกร 300 ล้านบาท เป็นการพัฒนาโครงการภายใต้บริษัทย่อย คือบริษัท ปิยะชาติ ที่ดิน 4 ไร่ครึ่ง ซึ่งหลังจากนี้ไปการพัฒนาโครงการอสังหาฯจะใช้ปิยะชาติเป็นผู้ดำเนินการ
ทั้งนี้ หลังรัฐประหารมองว่านโยบายเศรษฐกิจคงยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่การอนุมัติงบประมาณน่าจะรวดเร็วขึ้น เศรษฐกิจขับเคลื่อนได้การฟื้นตัวก็จะเร็วขึ้น ทำให้ส่วนรวมคลายความกังวลได้บ้าง ขณะที่โครงการต่างๆ ของภาคเอกชนก็จะเดินหน้าได้รวดเร็วขึ้น