ทั้งนี้ จากนโยบายบริษัทฯ ที่ต้องการมุ่งพัฒนานวัตกรรมสินค้าอาหารสำเร็จรูปโดยใช้วัตถุดิบจากเนื้อหมูและเนื้อไก่ เพื่อต่อยอดธุรกิจและสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ตัวสินค้านั้น โดยปีนี้บริษัทฯ ได้ให้ความสำคัญกับการผลักดันกลุ่มธุรกิจอาหารขนมขบเคี้ยว (มีทสแน็ค) ให้เติบโตเพิ่มขึ้น ซึ่งถือเป็นตลาดที่ยังไม่มีคู่แข่งรายใดทำตลาดมาก่อน ทั้งนี้ บริษัทฯ จะเร่งพัฒนานวัตกรรมสินค้าใหม่ๆเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค
สำหรับผลิตภัณฑ์ ‘มูชิ’ ในช่วงแรกจะเริ่มวางตลาดด้วยกัน 2 รสชาติ ได้แก่ รสฮอทแอนด์สไปซี่และรสคลาสสิค ขนาด 16 กรัม ในราคา 20 บาท ผ่านช่องทางขายห้างค้าปลีกสมัยใหม่ และร้านค้าแบบดั้งเดิมทั่วประเทศตั้งแต่เดือนมิถุนายนนี้ โดยมีบริษัทดีเคเอสเอช (ประเทศไทย) เป็นผู้รับผิดชอบกระจายสินค้าให้
พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ได้เตรียมใช้งบ 20 ล้านบาทเพื่อสื่อสารการตลาดสร้างการรับรู้จุดเด่นของผลิตภัณฑ์แบรนด์ ‘มูชิ’ “ผลิตจากเนื้อหมูล้วนๆ ไม่ผสมแป้ง" ด้วยภาพยนตร์โฆษณาผ่านสื่อโทรทัศน์ และลงสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ตามสื่อสิ่งพิมพ์ นิตยสาร และแจกสินค้าเพื่อทดลองชิมสินค้าตามสถาบันการศึกษาและแหล่งชุมชนอีกด้วย จึงมั่นใจว่าสินค้าจะได้รับการตอบรับจากลูกค้ากลุ่มเป้าหมายอย่างแน่นอน
“เรามองเห็นโอกาสการทำตลาดอาหารขบเคี้ยวในไทย ที่ยังไม่มีคู่แข่งรายใดทำตลาดมาก่อน ด้วยจุดแข็งของบริษัทฯที่เชี่ยวชาญด้านแปรรูปอาหารจาก เนื้อหมูและไก่ ทำให้เรามีความมั่นใจในการผลักดันสินค้ามูชิ ที่เป็นอาหารแปรรูปที่ทำจากเนื้อหมูที่ใช้กระบวนการทอดเข้ามาทำตลาดรองรับพฤติกรรมของผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ที่ให้ความใส่ใจในเรื่องสุขภาพ ซึ่งคาดว่าจะทำยอดขายได้ในปีแรก 150 ล้านบาท" นายไพรสารต์ กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนออกผลิตภัณฑ์ ‘มูชิ’ ที่ใช้วัตถุดิบจากเนื้อไก่ ภายใต้มาตรฐานสินค้า ฮาลาล ประมาณไตรมาส 3-4 ปีนี้ โดยมีเป้าหมายว่าจะใช้เป็นสินค้าเพื่อเจาะตลาดต่างประเทศ โดยผลิตจากโรงงานของบริษัทในเครือที่ได้รับใบรับรองเครื่องหมายฮาลาล เพื่อเจาะตลาดกลุ่มลูกค้ามุสลิม และส่งออกไปยังประเทศในตะวันออกกลาง, ตลาดอาเซียน และยุโรป