ขณะที่บริษัทจะมีการปรับเพิ่มเป้ารายได้ปีนี้เป็น 2.4 พันล้านบาท จากเดิมที่คาดไว้ 2.3 พันล้านบาท เนื่องจากทุกธุรกิจมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในบริษัทลูก ทั้ง Interlink telecom ที่เริ่มมีรายได้ทยอยเข้ามาแล้ว และ Interlink data center ที่จะทยอยเข้ามาในช่วงต้นไตรมาส 3/57 ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างทดลองสัญญาณ และบริษัทฯมีงานในมือ(Backlog)ราว 1.2 พันล้านบาท คาดว่าจะรับรู้เป็นรายได้ภายในปีนี้ราว 600-800 ล้านบาท
"เราเล็งปรับเป้ารายได้ และกำไรขึ้นอีกเพราะทุกธุรกิจของเรามีการเติบโตได้ค่อนข้างดี ส่งผลให้ผลประกอบการในไตรมาส 1 เติบโตได้ค่อนข้างดี เราจึงมองว่าปีนี้คงจะเติบโตได้เกินเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ เพราะยังจะสามารถรับรู้รายได้จาก Interlink data center ที่จะทยอยเข้ามาในไตรมาส 3 อีกด้วย แต่เราก็ต้องดูภาพรวมของครึ่งปีแรกก่อนว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง"นายณัฐนัย กล่าว
อนึ่ง ILINK แจ้งผลประกอบการในปี 56 มีกำไรเท่ากับ 166.84 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 1.39 บาท
ทั้งนี้ บริษัทคาดว่ารายได้รวมของในช่วงไตรมาส 2/57 อาจจะทรงตัวหรือลดลงเล็กน้อยจากไตรมาส 1/57 แต่ยังเติบโตเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเชื่อว่าจะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงไตรมาส 3 และ 4 ตามฤดูกาลปกติของธุรกิจ
นายณัฐนัย กล่าวอีกว่า สถานการณ์การเมืองที่เกิดในช่วงที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันบริษัทไม่ได้รับผลกระทบเนื่องจากเน้นรับงานของเอกชนเป็นส่วนใหญ่ แต่หลังจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ประกาศว่าจะเร่งอนุมัติโครงการขนาดเล็กของภาครัฐมูลค่า 100-500 ล้านบาทในช่วงเดือน ก.ย.โดยไม่จำเป็นต้องรอผ่านการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ทำให้บริษัทมีโอกาสจะเข้าประมูลงานเหล่านี้ด้วย
สำหรับแผนขอย้ายหุ้น ILINK จากตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ(mai)เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ช่วงกลางปี 58 นั้น บริษัทยังจำเป็นต้องเพิ่มทุนจดทะเบียนให้เป็น 300 ล้านบาท จากปัจจุบันอยู่ที่ 270 ล้านบาท ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างการหารือแนวทางกับที่ปรึกษาทางการเงิน(FA) แต่เบื้องต้นมองว่าการออกหุ้นเพิ่มทุนเพื่อจ่ายเป็นหุ้นปันผลน่าจะมีความเหมาะสม โดยเรื่องดังกล่าวน่าจะมีข้อสรุปในช่วงกลางปีนี้
"แนวทางในการเพิ่มทุนนั้นขอเราขอปรึกษากับที่ปรึกษาทางการเงินก่อน แต่มองแนวทางที่มีความเหมาะสมและเป็นไปได้มากที่สุดคือการจ่ายเป็นผลเป็นหุ้น" นายนัฐนัย กล่าว
ส่วนแผนการนำบริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม ซึ่งเป็นบริษัทลูก บริษัทฯยังคงเป้าหมายที่จะจดทะเบียนเข้าในตลาดหลักทรัพย์ในปี 59