"ปีนี้กำไรลดลง ต้นทุนเพิ่ม รายได้ก็หายไป...รอลุ้นครึ่งปีหลังจะดีขึ้น อาจะจะช่วยได้ ก็ยอมรับว่าปีนี้ลำบาก"นายฉัตรชัย กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
นายฉัตรชัย กล่าวว่า ในไตรมาส 2/57 บริษัทคาดว่าจะมีรายได้ดีขึ้นกว่าในไตรมาส 1/57 ที่มีรายได้ 1.15 พันล้านบาท เนื่องจากยอดโฆษณาเข้ามากขึ้นในเดือน มี.ค.-เม.ย.57 อย่างไรก็ตาม เมื่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ห้ามการออกอากาศ ทำให้เวลาออกอากาศหายไป 2-3 วัน
และคาดหวังว่าในครึ่งปีหลังผลประกอบการจะดีขึ้น เพราะ คสช.ได้เดินหน้างานด้านเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการกระจายเงินเข้าสู่ภาคต่างๆ ได้แก่ การจ่ายเงินในโครงการรับจำนำข้าวให้ชาวนา ซึ่งเห็นว่าจะช่วยกระตุ้นการบริโภคกลับคืนมา และส่งผลให้ภาวะเศรษฐกิจกระเตื้องขึ้น
นายฉัตรชัย กล่าวว่า ช่องทีวีดิจิตอล 3 ช่องคงมียอดโฆษณาไม่มากนัก และราคาขายโฆษณาต่ำมาก เบื้องต้นบริษัทคาดว่าทั้ง 3 ช่องทีวีดิจิตอลจะขาดทุนในช่วง 1-2 ปี ซึ่งทำให้บริษัทต้องแบกรับภาระส่วนนี้ อย่างไรก็ตาม ช่องเด็กและครอบครัว คงสามารถทำกำไรได้ก่อน เนื่องจากมีกลุ่มผู้ชมชัดเจน ต้นทุนการดำเนินงานค่อนข้างต่ำ มีการแข่งขันน้อย ขณะที่ช่อง 3 HD และ ช่อง 3 SD จะต้องลงทุนรายการใหม่มากกว่าและการแข่งขันค่อนข้างสูง
ทั้งนี้ ในเดือน มิ.ย.57 จะเริ่มออกอากาศทั้ง 3 ช่องทีวีดิจิตอล โดยนำรายการที่ออกอากาศในระบบอนาล็อกมากระจายทั้ง 3 ช่อง และในเดือน ต.ค.57 ก็จะเพิ่มรายการใหม่ๆ เข้ามา โดยในช่วงไตรมาส 4/57 ที่เป็นช่วงไฮซีซั่นคาดว่าจะมียอดโฆษณาเข้ามามาก ขณะที่ช่อง 3 ระบบอนาล็อกในปัจจุบันก็จะยังออกอากาศไปถึงเดือน มี.ค.63
ส่วนเงินลงทุน ขณะนี้บริษัทใช้เงินสดของบริษัทเองไปก่อน ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 6-7 พันล้านบาท บริษัทเน้นการระมัดระวังค่าใช้จ่าย จึงยังไม่ได้ลงทุนมาก