นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งแคบ แม้ว่าสถานการณ์ในประเทศจะมีความคืบหน้ามากขึ้นเกี่ยวกับการจ่ายคืนเงินจำนำข้าว การร่นระยะเวลาการใช้เคอร์ฟิว ทุกอย่างบรรยากาศจะเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีการตั้งคณะที่ปรึกษาคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ช่วยในการบริหารประเทศ
"ที่สำคัญแรงขายต่างชาติยังคงกดดันอยู่ นักลงทุนยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับเรื่องไทยที่อาจจะถูกหั่นแนวโน้มเครดิตลงในอนาคตหากการตั้งรัฐบาลไม่เกิดขึ้นในไตรมาส 3"นายอภิชาติ กล่าว
ประเมินดัชนีแกว่งกรอบแคบ แนวรับ 1,385 จุด แนวต้าน 1,400 จุด น่าจะมีแรงกดดันจากแรงขายต่างชาติอยู่
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ควานนี้(27 พ.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,675.50 จุด เพิ่มขึ้น 69.23 จุด (+0.42%), ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1,911.91 จุด เพิ่มขึ้น 11.38 จุด(+0.60%),ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 4,237.07 จุด เพิ่มขึ้น 51.26 จุด(+1.22%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 10.41 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 0.01 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 79.52 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 16.75 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 2.63 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 1.31 จุด, และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 2.34 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(27 พ.ค.) ที่ 1,392.73 จุด เพิ่มขึ้น 4.44 จุด(+0.32%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,757.25 ล้านบาท เมื่อวันที่ 27 พ.ค.57
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(27 พ.ค.)ที่ 104.11 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 24 เซนต์
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(27 พ.ค.)ที่ 6.18 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิดตลาด 32.64/65 ทรงตัวจากวานนี้ จับตากระแสเงินทุน-ราคาทอง
- คสช.ลุยแก้ปัญหาแตกแยก สลายสีเสื้อ สั่งตั้ง "ศูนย์ปรองดองสมานฉันท์" ทุกกองทัพภาค หวังเป็นศูนย์กลางของ ผู้เห็นต่างทุกฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความเห็นเน้นสมัครใจ ดึงแกนนำร่วมหารือ พร้อมเปิดทางจัดเสวนา ขณะเดียวกันก็ใช้เป็นกลไกให้ข้อมูลกับประชาชนในระดับพื้นที่ แก้ปัญหาถูกบิดเบือน
- 7 องค์กรธุรกิจ" ชง 7 กรอบฟื้นฟูเศรษฐกิจ คาดความเชื่อมั่นสู่ภาวะปกติภายใน 6 เดือน ดันจีดีพีโต 2% ขณะธปท. เตรียมประเมินมาตรการเศรษฐกิจของคสช. ถกประชุมกนง. 18 มิ.ย.นี้ เพื่อทบทวนตัวเลขประมาณการเศรษฐกิจใหม่
- ป.ป.ช.สอบพยานเพิ่ม 4 ปาก คดีทุจริตจำนำข้าว หลังมีรายงานความเสียหายถึง 5 แสนล้าน ด้านอคส.ตั้งทีมตรวจสอบสต็อกข้าวอีกรอบ พร้อมชี้แจง คสช. วันนี้ ขณะปลัดคลังยอมรับขาดทุนเพิ่ม แต่ไม่ถึง 5 แสนล้าน "ธ.ก.ส."จ่ายเงิน 2 วัน กว่า 4 พันล้าน
- คลังชงงบประมาณปี 2558 ต่อ"คสช."วันนี้ ดันลงทุนรถไฟรางคู่-รถไฟฟ้ากทม.และปริมณฑล รับขาดดุลกว่า 2.5 แสนล้านบาท นัดถกทุกส่วนราชการ เร่งเบิกจ่ายงบลงทุนปี 2557
- แบงก์พาณิชย์ลุ้นสินเชื่อฟื้น หลัง คสช.ปลดล็อกเงินกู้ช่วยชาวนา สร้างตัวคูณให้เศรษฐกิจต่อเนื่อง พร้อมเร่งผลักดันโครงการลงทุนภาครัฐทันที กระตุ้นความมั่นใจให้ภาคเอกชนลงทุนตาม พร้อมร่วมประมูลสินเชื่อกับ ธ.ก.ส.ชี้ดอกเบี้ยประมูลไม่สูง แม้อยู่ในภาวะการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ด้านแบงก์กรุงเทพ ยังคงจีดีพี 2-3% ตามสมมติฐานการเมืองชัดความเชื่อมั่นกลับมา
*หุ้นเด่นวันนี้
- CPALL (ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 55 บาท การลดเวลาเคอร์ฟิวจากเดิม 22.00 – 5.00 น. เป็น 0.01 – 4.00 น.เป็บลบต่อ CPALL น้อยลงจากเดิมที่ได้รับผลกระทบจำกัดอยู่แล้ว โดยรายได้ในช่วงเวลา 22.00 – 5.00 น.คิดเป็นเพียง 5% ของรายได้รวม ขณะที่รายได้ในช่วงเวลา 0.01 – 4.00 น.คิดเป็นเพียง 2% ของรายได้รวม ทุกๆ 1% ของรายได้ที่ลดลง จะกระทบกำไรเพียง 0.6% และกระทบราคาเป้าหมาย 0.30 บาท/หุ้น ถือว่าไม่มีนัยสำคัญ
- TMB(เมย์แบงก์กิมเอ็ง)"ทยอยสะสม"เป้า 2.55 บาท ราคาหุ้นกลุ่มธนาคารจะตอบรับเชิงบวก หลังศสช.ประกาศแต่งตั้งคณะที่ปรึกษาจำนวน 10 คน และหลายท่านในทีมที่ปรึกษาเป็นที่รู้จักกันดี เช่น หม่อมราชวงศ์ ปรีดิยาธร เทวกุล, นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์,นายวิษณุ เครืองาม ฯลฯ และคาดการเปิดเผย Roadmap เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในสัปดาห์หน้า จะเป็นปัจจัยบวกที่รออยู่ และช่วยเสริมความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนว่าเศรษฐกิจไทยได้ผ่านพ้นจุดต่ำสุดแล้ว และกำลังเข้าสู่การฟื้นตัวใน 2H57 ดังนั้น หุ้นกลุ่มธนาคารจะได้รับประโยชน์โดยตรง จากการเติบโตของสินเชื่อทั้งรายย่อย, SME, ภาคธุรกิจ และภาครัฐฯ คาดกำไรสุทธิ 2Q57 ฟื้นตัว qoq เป็น 1.7 – 1.8 พันล้านบาท จากการตั้งสำรองที่ลดลง และรายได้ค่าธรรมเนียมใน 2H57 จะฟื้นตัวชัดเจน ผลักดันให้กำไรสุทธิปี 2557 เติบโต +39.2% yoy เป็น 7,988 ล้านบาท
- HMPRO (เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 10 บาท เป็นจังหวะลงทุนคงมุมมองต่อปัจจัยพื้นฐาน HMPRO คาดว่าผลประกอบการปีนี้จะมีกำไรสุทธิ 3,512 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% YoY ในเบื้องต้นเราคาดว่ากำไรสุทธิ 2Q57 เพิ่มขึ้น YoY และ QoQ ตามการเติบโตของยอดขายสาขาเดิมและการเปิดสาขาใหม่ 3-4 สาขา รวมทั้ง Gross margin ฟื้นตัวจาก 26.1% ราคาหุ้น HMPRO ปัจจุบันยังไม่สะท้อนปัจจัยบวกแนวโน้ม 2Q57 และมี Upside 14% จากราคาปัจจุบัน