ปัจจุบัน บริษัทมีงานในมือ(Backlog) 2,200 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้เข้ามาในปีนี้ 1,850 ล้านบาท ขณะที่บริษัทเข้าร่วมประมูลงานภาครัฐและภาคเอกชน มูลค่ากว่า 8,050 ล้านบาท แบ่งเป็นการไฟฟ้านครหลวง(กฟน.) 2,300 ล้านบาท การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.) 2,000 ล้านบาท และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) 100 ล้านบาท ส่วนงานภาคเอกชนภายในประเทศอีก 1,950 ล้านบาท และต่างประเทสประมาณ 1,000 ล้านบาท
รวมถึงงานประมูลของบริษัทย่อยอีก 700 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะชนะการประมูลงานได้ 20-25% โดยจะทราบผลได้ในช่วงเดือน พ.ค.นี้
ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้น บริษัทก็ยังคงรักษาระดับให้ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาไม่น้อยกว่า 20-25% ควบคู่กับการรักษาสัดส่วนตลาดให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และมาตรการในด้านอื่นๆ เพื่อเป็นการบริหารความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่ควบคุมได้ และเพื่อรักษาอัตราการเติบโตของบริษัท
นอกจากนี้ มองแนวโน้มไตรมาส 2/57 คาดว่ารายได้และกำไรจะใกล้เคียงกันกับไตรมาสแรกที่ผ่านมา เนื่องด้วยมีงานเข้ามาน้อย ซึ่งงานจะมีเข้ามามากในไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ของปี ขณะที่มองเรื่องของการเมืองว่าขณะนี้ก็เห็นแนวโน้มสัญญาณที่ดี จากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช) ใช้อำนาจบริหารจัดการได้อย่างรวดเร็ว