ปัจจุบัน บริษัทมีงานในมือ(Backlog)รวมประมาณ 2,400 ล้านบาท แบ่งเป็นงานที่มาจากธุรกิจเทรดดิ้งประมาณ 700 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทได้รับการว่าจ้างงานติดตั้งเสาโทรคมนาคมจาก บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น(TRUE)อีกจำนวน 1,200 ต้น สัญญา 2 ปี ส่งมอบปีละ 600 ต้น มูลค่าประมาณ 1,500 ล้านบาทที่จะดำเนินการแล้วเสร็จในอีก 2 ปี รวมถึงงานโทรคมนาคมระหว่างทางที่จะทยอยรับรู้รายได้อีกประมาณ 200 ล้านบาท และงานใหม่ๆ ที่เตรียมจะเข้าร่วมประมูลอีกหลายโครงการ
แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 2/57 ยังขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องจากไตรมาส 1/57 ที่มีกำไรสุทธิ 20 ล้านบาท ส่วนรายได้จากการขายและบริการติดตั้งอยู่ที่ 771 ล้านบาท และคาดว่าจะดีต่อเนื่องอย่างมีนัยสำคัญจนถึงไตรมาส 3 และ4 ของปีนี้และต่อเนื่องไปในปี 58 เนื่องจากมีงานเข้ามาอย่างสม่ำเสมอ ทั้งงานด้านโทรคมนาคมและงานเทรดดิ้ง
อีกทั้งบริษัทมีแผนขยายช่องทางการสร้างรายได้ โดยเตรียมเพิ่มเอ้าท์เล็ทเป็นร้านค้าที่จำหน่ายหลอดไฟและระบบแสงสว่างของฟิลลิปส์ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลเป็น 4 แห่ง จากปี 56 มีอยู่ 1 แห่ง รวมถึงการเพิ่มบุคลากรหรือทีมงานมืออาชีพ เชื่อว่าจะหนุนให้บริษัทเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งในอนาคต
แนวโน้มอุตสาหกรรมโทรคมนาคมในช่วงที่เหลือของปีนี้ เชื่อว่ายังมีทิศทางเติบโตอยู่ในเกณฑ์ที่ดี เนื่องจากกลุ่มผู้ประกอบการผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือยังเดินหน้าขยายการลงทุนโครงข่าย 3G, 4G รวมถึงทีวีดิจิตอลอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลทำให้ธุรกิจของบริษัทที่อิงกับการเติบโตของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมสามารถขยายตัวตามไปได้ ขณะเดียวกันเชื่อว่าจะไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้มากนัก