บริษัทคาดว่าอัตราบรรทุกผู้โดยสาร(Cabin factor) ปีนี้จะอยู่ที่ราว 80% ใกล้เคียงกับปี 56 โดยมีแผนเพิ่มเครื่องบินอีก 8 ลำ แบ่งเป็นเครื่องบินเจ็ท 4 ลำ และเครื่องบินขนาดกลางและเทอร์โบ 4 ลำ ซึ่งรับมอบมาแล้ว 1 ลำในช่วงไตรมาส 1/57 และทยอยรับให้ครบทั้งหมดภายในปีนี้ บริษัทมีสัญญาเช่าระยะเวลา 8-12 ปี ซึ่งจะส่งผลต่อจำนวนที่นั่ง(capacity)ปีนี้เพิ่มขึ้นอีกราว 20%
ด้านอัตรากำไรสุทธิปีนี้คาดว่าจะต่ำกว่าปีก่อนที่ทำได้ราว 1 พันล้านบาท หลังจากในช่วงไตรมาส 1/57 ที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมืองที่ยืดเยื้อมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 56
“หลังจากสถานการณ์ทางการเมืองกระทบผู้โดยสารให้ลดลง เราจึงต้องมีการปรับกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อที่จะรักษา Cabin factor ให้อยู่ในระดับ 80 % ใกล้เคียงกับปีก่อน ซึ่งส่งผลกระทบต่อกำไรให้ปรับตัวลดลง ถึงแม้ว่ารายได้จะเพิ่มขึ้น แต่รายได้ที่เพิ่มขึ้นก็มาจากการเพิ่มฝูงบินมากขึ้น ส่งผลต่อ capacity สูงขึ้นด้วย" นายปัญญา กล่าว
สำหรับการปรับตารางบินในช่วงฤดูฝนที่ปกติเป็นช่วงโลว์ซีซั่นด้านการท่องเที่ยวนั้น บริษัทจะปรับลดเที่ยวบินที่มีผู้โดยสารน้อย อาทิ เชียงใหม่และสุราษฎ์ธานีในเดือน มิ.ย.เพื่อเพิ่มเที่ยวบินในจังหวัดที่มีมีผู้โดยสารมากกว่า
นายปัญญา ยังกล่าวถึงการเปิดให้บริการสายการบินราคาประหยัด NOK SCOOT คาดว่าจะเริ่มเปิดบินได้ในช่วงปลายปีในเส้นทางการบินต่างประเทศ โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการขอใบอนุญาตเส้นทางบิน โดยเบื้องต้นคาดว่าเริ่มจากเส้นทางไปเกาหลีและญี่ปุ่น