ทั้งนี้ ภาพรวมอุตสาหกรรมคาดว่าอาจจะมียอดการผลิตรถยนต์ไม่ถึงเป้าหมาย 2.3 ล้านคันในปีนี้ โดยน่าจะลดลงจากปีก่อนถึง 10% จากที่ภาพรวมเศรษฐกิจยังคงชะลอตัวและยังอยู่ในช่วงขาลง แต่ก็เชื่อว่าจากการดำเนินนโยบายต่างๆ ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)จะช่วยผลักดันเศรษฐกิจให้เติบโตไปได้ โดยนักลงทุนต่างชาติไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น และยุโรป ยังคงใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตอยู่ เนื่องจากไทยมียอดการผลิตมากที่สุดเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้บริษัทมีการใช้กลยุทธ์ในการขยายตลาดใหม่ๆ เพิ่มเติมนอกเหนือจากการผลิตรถยนต์ดัดแปลง โดยเจาะกลุ่มชิ้นส่วนบิ๊กไบค์ รถบรรทุกขนาดใหญ่ รวมไปถึงเครื่องจักรอุตสาหกรรม พร้อมทั้ง ควบคุมค่าใช้จ่ายด้วยการลดต้นทุนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
"เรามองว่าในช่วง 3 ปีข้างหน้าอุตสาหกรรมยานยนต์ก็ยังคงเติบโตไปได้ โดยเราก็มีการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์บ้านเมือง ซึ่งก็มีการขยายการผลิตชิ้นส่วนไปยัง รถมอเตอร์ไซด์ขนาดไฮเอ็นด์ ตัวถังรถบรรทุกขนาดใหญ่ โดยที่ผ่านมาก็มีการร่วมทุนกับประเทศญี่ปุ่นมาแล้ว ขณะที่ทั้งปีเราก็ยังคงเป้าหมายรายได้ไว้เหมือนเดิมโดยลดลง 10%"นายสมพงษ์ กล่าว